กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ สอบข้อเท็จจริงกรณีที่นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ชำนาญการพิเศษดีเอสไอ เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะมีการจับกุมและดำเนินคดีอาญาเจ้าอาวาสวัดหลายแห่งที่เกี่ยวกับคดีเงินทอนวัด
พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ล่าสุดดีเอสไอมีคำสั่งให้นายพิสิฐชัยพ้นตำแหน่งจากกองคดีภาษีอากร ไปปฏิบัติงานที่สำนักงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ โดยมีผลทันที และให้กองภาษีอากรเชิญผู้แทนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) มาให้ข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าเป็นความผิดทางวินัย หรือทางอาญา รวมถึงความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ แล้วรายงานให้อธิบดีดีเอสไอทราบ โดยยอมรับว่า ดีเอสไอไม่มีข้อมูลที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามเรียกสอบปากคำนายพิสิฐชัยเมื่อวานนี้ ทั้งไม่ทราบเจตนาที่โพสต์ข้อความ
ด้านพลตำรวจตรี กมล เหรียญราชา ผู้บังคับการ ปปป. เปิดเผยว่า ข้อมูลที่นายพิสิฐชัยนำมาเผยแพร่ ไม่ได้มาจากสำนวนคดีของ ปปป. และไม่ทราบว่านำข้อมูลมาจากที่ใด ขณะที่การสอบสวนขยายผล คดีเงินทอนวัดล็อตที่ 4 อยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานจากวัดทั่วประเทศ
..
ผสข.ปภาดา พูลสุข