การจัดกิจกรรม "กทม.เติมความสุข สู่ชุมชน"ครั้งที่ 8 โดยกรุงเทพมหานคร(กทม.) วัดอุดมรังสี เขตหนองแขม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมืองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมเปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมกทม.เติมความสุขสู่ชุมชน ที่ วัดอุดมรังสีเขตหนองแขม ในวันนี้ กรุงเทพมหานคร ได้จัดเจ้าหน้าที่และนำรถบริการเคลื่อนที่จากทุกหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพฯมาคอยให้บริการประชาชนในชุมชนฟรี ตั้งแต่เวลา 08.30 -16.00 น. โดยให้บริการประชาชนหลายอย่าง เช่น ตรวจสุขภาพจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตรวจรักษาโรคทั่วไป ตรวจสุขภาพคัดกรองความเสี่ยงในด้านต่างๆ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ประเมินดัชนีมวลกาย บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ รถคัดกรองมะเร็งสตรี รถคลายเครียดที่มีจิตแพทย์ประจำรถ บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สัตว์เลี้ยง ทำหมันสุนัขและแมว สนับสนุนแว่นสายตายาวสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปี รวมถึงรถทันตกรรมเคลื่อนที่ รวมถึงบริการทะเบียนราษฎรเคลื่อนที่ บริการฝึกอาชีพบริการนวดแผนไทยและตลาดนัดชุมชนอีกด้วย
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) และทีมผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมพูดคุยกับชาวกรุงเทพมหานคร ในเขตพื้นที่กรุงธนใต้ ประกอบด้วย เขตภาษีเจริญ เขตบางแค โดยเป็นการเปิดเวทีให้ชาวบ้านได้เล่าถึงปัญหา ให้เจ้าหน้าที่ได้รับทราบโดยตรง ซึ่งปัญหาที่พบส่วนใหญ่จากการเปิดเวทีในวันนี้ คือชาวบ้านต้องการให้กรุงเทพมหานคร ช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมขังในช่วงหน้าฝน โดยพล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า กรุงเทพมหานคร ได้รับไปแก้ไข พร้อมยอมรับว่าเขตพื้นที่ฝั่งธนเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วมขัง พร้อมยืนยันว่า หากมีเรื่องใดทำได้ก็จะดำเนินการทันที หรือแก้ปัญหาให้เบื้องต้น เช่น เตรียมเครื่องสูบน้ำให้ในพื้นที่ต่ำ ส่วนเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันที ก็จะต้องไปศึกษาหาแนวทาง และเร่งแก้ไขต่อไป
พล.ต.อ.อัศวิน เปิดเผยว่า ประชาชนให้การตอบรับสำหรับโครงการนี้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะวันนี้ ที่มีประชาชนในเขตหนองแขมและพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมโครงการเกือบ 6,000 คน
นอกจากนี้ ภายในงาน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังรับมอบเงินสนับสนุนโครงการปลูกป่าในใจคนตามศาสตร์พระราชา จากบริษัท อุตสาหกรรมท่อน้ำไทย จำกัด มหาวิทยาลัยธนบุรี จำนวนเงิน 240,000 บาท การดำเนินโครงการดังกล่าว เนื่องจากชายทะเลบางขุนเทียนถูกน้ำกัดเซาะกว่า 1,200 เมตร โดยมีพื้นที่สูญหายจากน้ำกัดเซาะกว่า 3,200 ไร่ ถือว่าสร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก จึงได้มีการตั้งมูลนิธิขอความร่วมมือจากภาคเอกชน ซึ่งตลอดระยะ 8 เดือน สามารถปลูกต้นไม้ได้ประมาณ 60 กว่าไร่ และตั้งเป้าหมายภายใน 3 ปี ปลูกให้ได้ 1,000 ไร่ ขณะนี้ มีประชาชน มาช่วยสมทบทุนเงินสนับสนุน รวมถึงช่วยปลูกต้นไม้ด้วย
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี