ชาวอัฟกันจำนวนมาก หันไปใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการเกิดระเบิดโจมตีและการล่วงละเมิดทางเพศ บรรดาผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์รุ่นใหม่ เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ความรุนแรงภายในอัฟกาสถาน โดยเฉพาะกรุงคาบูลที่มีเหตุระเบิดฆ่าตัวตายและเหตุรุนแรงอื่นๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเฉพาะในปีนี้แล้วหลายร้อยคน คาดว่าความรุนแรงอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัฟกานิสถานเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ในเดือนตุลาคมนี้ ขณะที่ สถิติการล่วงละเมิดทางเพศตามท้องถนนก็ยังคงน่าวิตก สินค้าที่จัดจำหน่ายโดยผู้ประกอบการออนไลน์ในอัฟกานิสถานมีทั้งเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ เครื่องครัว อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ พรม กระทั่งอสังหาริมทรัพย์ บางแห่งจำหน่ายสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ เช่น นาฬิกา รองเท้า และเสื้อผ้า
นักศึกษาชาวอัฟกันคนหนึ่ง อธิบายว่า การชอปปิ้งออนไลน์ถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวอัฟกันในช่วงที่กำลังอยู่ในภาวะสงคราม และเหมาะสำหรับชาวอัฟกันรุ่นใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนในการติดต่อสื่อสารอยู่แล้ว
ทามิม ราซา ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ราซา วัย 28 ปี เปิดเผยว่า เขาใช้เงินทุนประมาณ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 960,000 บาทในการเริ่มต้นธุรกิจจำหน่ายสินค้าออนไลน์เมื่อ 8 เดือนก่อน โดยมีการทำสัญญารับสินค้าจากผู้ผลิตสินค้าและผู้ค้ารายใหญ่มากกว่า 60 แห่ง เพื่อจำหน่ายสินค้าให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้หญิงเป็นหลัก ปัจจุบันสามารถสร้างกำไรได้ระหว่าง 450 – 1,350 บาทต่อวัน โดยแทบไม่มีสินค้าค้างสต๊อก และมีแนวโน้มการทำกำไรที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ รวมทั้งมีแผนจะขยายบริการไปยังอีกหลายพื้นที่ ขณะที่ ผู้ประกอบอาชีพรับจ้างขนส่งสินค้าก็มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 112 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 3,600 บาทต่อเดือน
ด้านโฆษกกระทรวงพาณิชย์ของอัฟกานิสถานระบุว่า การซื้อขายสินค้าออนไลน์ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในอัฟกานิสถาน ซึ่งเผชิญกับสงครามมามากกว่า 40 ปีแล้ว และปัจจุบันมีผู้ให้บริการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ราว 50 แห่ง ในจำนวนนี้มีเพียง 20 แห่งที่จดทะเบียนการค้า ซึ่งขณะนี้กระทรวงกำลังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเหล่านี้จดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters