การประชุมจี 7 ที่แคนาดาตึงเครียดจากนโยบายกำแพงภาษีของสหรัฐฯ

ระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ หรือ จี 7 ในรัฐควิเบกของแคนาดา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับแรงกดดันและถูกโดดเดี่ยวจากผู้นำกลุ่มประเทศที่เหลือ เนื่องจาก นโยบายกำแพงภาษีสินค้านำเข้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่รัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างว่าเพื่อคุ้มครองภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ จนกระทบต่อสินค้าส่งออกจากกลุ่มประเทศสมาชิกจี 7 ที่เหลือ โดยเฉพาะเหล็กและอลูมิเนียมจากแคนาดา เจ้าหน้าที่รัฐบาลฝรั่งเศสคนหนึ่ง เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีแองเจล่า เมอร์เคิล แห่งเยอรมนี ได้นำเสนอแนวคิดเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวผ่านระบบการประเมินและการเจรจาร่วมกัน โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้นำประเทศอื่นๆ โดยนายฌอง-เคลาด์ จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมการกิจการยุโรป กล่าวว่า เขาพร้อมที่จะเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อร่วมประเมินสถานะทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสหภาพยุโรป หรืออียู นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่ากลุ่มประเทศ จี 7 จะได้ข้อสรุปสำคัญจากการประชุมครั้งนี้หรือไม่ สะท้อนถึงสภาวะการขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกลุ่มประเทศสมาชิกที่ประกอบด้วย สหรัฐฯ แคนาดา ญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส และเยอรมนี

ด้านนายกรัฐมนตรีเทเรซ่า เมย์ ของอังกฤษ เตือนว่า ทั้งผู้นำสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศอียู กำลังทำให้เกิดสงครามการค้า พร้อมเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่าย หันไปให้ความสนใจกับการผลิตเหล็กที่ล้นตลาดของจีนแทน ขณะที่ ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องต่อที่ประชุม จี 7 ให้นำรัสเซียกลับเข้าสู่เวทีการประชุมด้วย แต่ได้รับการคัดค้านจากนายกรัฐมนตรีเยอรมนี

ทีมต่างประเทศ

CR:Reuters