ตร.รวบรวมหลักฐานคดีเงินทอนวัด คาดส่งอัยการก.ค.

09 มิถุนายน 2561, 07:28น.


การติดตาม 5 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ หลังมีพฤติกรรมช่วยเหลืออดีตพระพรหมเมธี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ ชุดสืบสวนของตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม จัดกำลังติดตามอย่างต่อเนื่อง มีชุดสืบสวนของกองปราบปราม ให้การสนับสนุน ในส่วนของ นางศศิร์อร เจียมวิจิตรกุล หนึ่งในผู้ต้องหาที่เดินทางไปที่ประเทศอังกฤษก่อนที่จะถูกออกหมายจับ ชุดสืบสวนได้ประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.) ให้นำหมายจับใส่เข้าไปในระบบตรวจคนเข้าเมืองแล้ว หากเดินทางกลับเข้ามาก็จะดำเนินการจับกุมและควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ขณะที่ผู้ต้องหาชาวลาวอีก 3 คน ประกอบด้วย นางจันทนา รัตนวงษ์ นางจิตติมา ลัดตะมะวง และนายน้อย รัตนวงษ์ ลูกสาวและลูกชายของนางจันทนา  สตม.ได้นำหมายจับใส่เข้าระบบและขึ้นบัญชีเป็นบุคคลเฝ้าระวังแล้ว หากเดินทางเข้ามาในประเทศไทยก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือนายพีรวิช ศรีศรัทธา คนขับรถของอดีตพระพรหมเมธี ยังคงหลบหนีและยังไม่มีรายงานว่าเดินทางออกนอกประเทศ

ส่วนการรวบรวมพยานหลักฐานทางคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สั่งการให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเร่งรัดการรวบรวมพยานและหลักฐานในการเอาผิดกับผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดทั้งหมด หลังจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังเป็นครั้งที่สองแล้ว มีกำหนดเวลา 12 วัน 

ตามที่ชุดสืบสวน เข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมในส่วนของวัดสระเกศวรมหาวิหาร และได้ยึดเอกสารมาจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบดูแล้วพนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาเรียกพยานบุคคลมาสอบปากคำอีกอย่างน้อย 20 ปาก ส่วนใหญ่เป็นบุคคลที่ได้รับเงินที่โอนมาจากบัญชีของวัดและบัญชีส่วนตัวของอดีตพระพรหมสิทธิ อดีตเจ้าอาวาส ซึ่งคำให้การจะเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา ในส่วนของวัดสระเกศ เป็นผู้ต้องหากลุ่มใหญ่ที่สุดและมีเส้นทางการเงินที่ซับซ้อนกว่าวัดสามพระยาวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร คาดว่า สำนวนการสอบสวนของทั้งสามวัด จะส่งให้อัยการได้ราวต้นเดือนกรกฎาคมนี้



แฟ้มภาพ



 

ข่าวทั้งหมด

X