เอเอฟพีรายงานหนังสือพิมพ์บิลด์ ของเยอรมนีว่า กรณีมีรายงานว่านายอาลี บาชาร์ ผู้อพยพชาวอิรักวัย 20 ปี ที่ถูกตำรวจควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีในข้อหาฆ่าข่มขืนด.ญ.ซูซานนา มาเรีย เฟลด์มาน วัย 14 ปี สามารถหลบหนีกลับประเทศแล้วโดยใช้บัตรประจำตัวปลอม สร้างความไม่พอใจใหกับสาธารณชนในเยอรมนีอย่างมาก หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเจ้าหน้าที่คนเข้าเมืองและตำรวจทำงานบกพร่อง
ก่อนหน้านี้ตำรวจได้ติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้หลังพบศพของด.ญ.เฟลด์มานใกล้รางรถไฟแห่งหนึ่งในสัปดาห์นี้ แต่ต่อมามีรายงานจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของเยอรมนีว่าคนรายรายนี้เดินทางกลับประเทศอิรักแล้ว พร้อมกับครอบครัว
ที่สำคัญคือ ตำรวจก็เคยมีบันทึกว่าคนร้ายรายนี้ทำความผิดอาญามาหลายคดีเช่นลักทรัพย์,ครอบครองมีดพับสปริงโดยผิดกฎหมายและคดีทะเลาะวิวาทอื่นๆ หลังการอพยพเข้ามายังเยอรมนีได้ไม่ถึง 3 ปีและควรจะถูกเนรเทศกลับประเทศก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว ด้านบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์บิลด์ระบุว่ารัฐบาลควรจะขอโทษพ่อแม่ของเด็กหญิงที่เสียชีวิต และที่แยกว่า คือการฆ่าเด็กตายโดยคนร้ายที่ไม่สิทธิ์จะอาศัยอยู่ในเยอรมนี เพิ่มแรงกดดันให้กับรัฐบาลนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ที่มีนโยบายเปิดประเทศต้อนรับผู้อพยพในช่วงที่เกิดวิกฤติมีผู้อพยพเดินทางเข้ายุโรปจำนวนมากในปี 2558 ส่งผลให้มีผู้อพยพกว่า 1 ล้านคนอพยพเข้าไปยังเยอรมนีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา