การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วาระการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำถึงความสำคัญของงบประมาณประจำปี 2562 วงเงินกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงบประมาณหลายรายการ เริ่มจากรายจ่ายประจำปีจำนวน 2,200,000 ล้านบาท(สองล้านสองแสนล้านบาท) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 75.2 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ทั้งหมด หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ ร้อยละ4.7 เมื่อเทียบกับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561
นอกจากนี้ยังมีรายจ่ายลงทุนจำนวน 666,000 ล้านบาท(หกแสนหกหมื่นหกพันล้านบาท) หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของงบประมาณทั้งหมด และยังมีรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้อีก 78,500 ล้านบาท(เจ็ดหมื่นแปดพันห้าร้อยล้านบาท)
นอกจากนันน ยังจัดสรรงบประมาณจะกระจายไปยังทุกกระทรวงและทุกพื้นที่ นายกรัฐมนตรีย้ำว่า รัฐบาลไม่มีจัดสรรงบให้พื้นที่ใดที่หนึ่งมากกว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และช่วยกันลดความเหลื่อมล้ำ ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประโยชน์
สำหรับกระทรวงที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณในปี 2562 สูงสุด 3 อันดับแรก ประกอบด้วย อันดับหนึ่ง กระทรวงศึกษาธิการได้รับงบจำนวน 489,000 ล้านบาท(สี่แสนแปดหมื่นเก้าพันล้านบาท) อันดับสอง กระทรวงมหาดไทย 373,000 ล้านบาท(สามแสนเจ็ดหมื่นสามพันล้านบาท) และ อันดับสาม กระทรวงการคลัง 242,000 ล้านบาท(สองแสนสี่หมื่นสองพันล้านบาท)
ในช่วงท้ายนายกฯ ยังกล่าวซ้ำ ถึงประเด็นการถูกตำหนิว่า หากจะมีการด่าตัวเองก็ด่าได้ แต่ขออย่าหมิ่นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะตำแหน่งนี้เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ และอยากให้ทุกคนช่วยกันให้กำลังใจกัน หากไม่ช่วยกันรักษาคนดี คนไม่ดีก็จะกลับมาได้ ทั้งนี้ในระหว่างการชี้แจงร่างพระราชบัญญัติต่อสนช.
นายกฯ ยังได้ชูมือไปยังกลุ่มนักศึกษาที่มาร่วมฟังการประชุม พร้อมกล่าวว่าหากอายุถึง 18 ปีแล้ว และมีสิทธิเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ขอให้ทุกคนคิดให้ดีก่อนจะลงคะแนนเสียงว่าจะเลือกใครมาบริหารประเทศ พร้อมกล่าวช่วงท้ายว่าหากตัวเองพูดจาสิ่งใดรุนแรงต่อที่ประชุมก็ขอโทษด้วย เพราะตัวเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง และยอมรับว่าไม่ง่ายกับการบริหารประเทศในภาวะพิเศษเช่นนี้
เป็นที่น่าสังเกตุว่าวันนี้มีสมาชิกสนช.มาลงชื่อเข้านั่งฟังการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวกันมากกว่าการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา