แนวทางแก้ปัญหาวิกฤตพระสงฆ์ หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าบิดเบือนไม่ได้อยู่แล้ว สามารถพิสูจน์ได้ มีความเป็นจริงมายาวนานกว่า 2, 500 ปีดังนั้นจะผิดจะถูกก็อยู่ที่คน ทั้งพุทธศาสนิกชนและในส่วนของพระสงฆ์ด้วย เพราะฉะนั้นทั้งสองฝ่าย ต้องยอมรับนับถือซึ่งกันและกันเคารพกติกาต่างๆ พระสงฆ์ก็มีพรบ.สงฆ์และยังมีกฎหมายทั่วไปที่ต้องเคารพ ดังนั้นวันนี้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จะถูกหรือผิด เป็นเรื่องของการกระทำเฉพาะบุคคลไม่เกี่ยวกับศาสนา ต้องแยกแยะให้ออกจากกัน
ส่วนการที่รัฐบาลเข้าไปดำเนินคดีต่างๆกับพระสงฆ์นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เพราะมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก รวมถึงเรื่องเงินทอนวัด ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันในทางกฎหมาย ที่ให้สิทธิทุกคน ไม่ใช่หลบหนีออกนอกประเทศ เพราะไม่ยอมรับกฎหมาย และกล่าวหาว่ารัฐบาลทำลายพระพุทธศาสนาซึ่งไม่ใช่ความจริง เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้เกิดการยอมรับของประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งวันนี้ก็มีความร่วมมือ ระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนา มหาเถรสมาคม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกคนก็มีข้อมูลที่จะประสานหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ขอให้เป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนการที่ที่เคยออกมาขอโทษก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่ได้ขอโทษ เพราะบุคคลนั้นเป็นใครแต่ขอโทษเพราะ บุคคลนั้นแต่งสงฆ์ การดำเนินการกับพระสงฆ์ต้องเหมาะสม ต้องเคารพพระด้วย พร้อมระบุด้วยว่า สิ่งใดก็ตามที่เกิดขึ้นในเวลานี้ อย่าไปประโคมข่าวจนคึกโครม จนกลายเป็นการรังแกพระ เหมือนกับเป็นคดีการเมือง เมื่อมีการขอลี้ภัย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะนำผู้ต้องหากลับมาเพราะฉะนั้นทำอย่างไรให้ทุกคนยอมรับกติกายอมรับกฎหมายของประเทศสำคัญที่สุด และไม่อยากให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของการเมืองไปซะทั้งหมด แล้วสุดท้ายก็มาเล่นงานรัฐบาลว่าไม่ติดตามตัว