การทุจริตโครงการอาหารกลางวันเด็กนักเรียน หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียืนยันว่า มีการสั่งลงโทษทุกที่ รวมถึงมีการคาดโทษ ให้สำนักงานเขตการศึกษาลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และในเรื่องนี้ไม่ใช่ให้ตนเองมาสั่งทุกอย่าง อีกทั้งคนที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนต้องมีจิตสำนึก ว่าเหตุใดต้องเอาเปรียบกับเด็กเล็ก ทั้งนี้ต้องรอผลการตรวจสอบ หากพบว่ามีการกระทำผิดก็ต้องสั่งลงโทษทั้งหมด เช่นเดียวกับกรณี การทุจริตในกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ได้สั่งลงโทษและแก้ไขไปแล้ว
ส่วนกรณีการลักลอบนำเข้าขยะอิเลคทรอนิกส์ผิดกฎหมาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะที่มีการนำ จะต้องได้รับการอนุญาตจาก กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งขณะนี้ได้มีการตรวจสอบไปแล้ว 7 โรงงาน และสั่งให้ระงับการทำกิจการไปแล้ว 5 โรงงานที่เหลืออีก 2 โรงงานงสามารถดำเนินการได้ต่อเนื่องจากถูกต้องตามกฎหมาย
ส่วนโรงงานที่นำเข้าขยะพลาสติกมีทั้งหมดจำนวน 26 โรงงานโดยได้มีการดำเนินการตรวจสอบไปแล้วกว่า 17 โรงงานและยังคงเหลืออีก 9 โรงงาน โดยคาดว่าจะตรวจสอบเสร็จสิ้นในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ โดยการตรวจสอบในครั้งนี้พบว่า ในโรงงานที่ขออนุญาตนำเข้าขยะพลาสติก กระทำความผิดโดยลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาด้วย จึงขอบคุณประชาชนที่ร้องเรียนเข้ามาเพื่อให้เกิดการตรวจสอบ ซึ่งรัฐบาลได้มอบอำนาจให้หน่วยงานทางจังหวัดเข้าดำเนินการตรวจสอบแทนแล้ว พร้อมกับเน้นย้ำให้ดำเนินการตามกฎหมายเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
สำหรับ ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้สารพาราคอตใน ภาคการเกษตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าขอบคุณที่เดินทางมายื่นหนังสือ ซึ่งตนเองได้ส่งผู้แทนซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปชี้แจงและทำความเข้าใจ พร้อมยืนยันว่าตนเองให้เกียรติทุกคน ซึ่งหากตนเองลงไปพบเองไม่ได้เนื่องจากติดภารกิจหลายเรื่อง พร้อมกับมีการตกลงว่าจะให้เกิดการเปลี่ยรแปลงเกิดขึ้นภายในปี 2562 ที่จะมีการลดใช้สารเคมีลดพื้นที่และปริมาณการนำเข้า ซึ่งรัฐบาลก็จะดำเนินการต่อไปอย่างต่อเนื่องและให้เร็วที่สุดซึ่งอาจเร็วกว่าปี 2562 ซึ่งจะมีการประชุมพูดคุยหารือกันตลอดเวลา โดยต้องกลับไปดูว่ากลุ่มเกษตรกรซึ่งเป็นกลุ่มต้นทางต้องการอะไร ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับกฎกติกาว่าสามารถใช้งานได้ในปริมาณเท่าใดและสามารถป้องกันตนเองได้เท่าใด โดยมีตัวอย่างในหลายประเทศ