สำนักงานประสานงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของกัวเตมาลา รายงานว่าภูเขาไฟฟูเอโก้ ปะทุอย่างรุนแรงและมีลาวาไหลหลากที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 62 ศพ ได้รับบาดเจ็บอีกประมาณ 300 คน และมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วมากกว่า 3,000 คน แต่การค้นหาผู้สูญหายและการอพยพประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากข้อจำกัดของสภาพภูมิประเทศ สำหรับภูเขาไฟฟูเอโก้ปะทุอย่างรุนแรงเป็นครั้งที่ 2 แล้วนับตั้งแต่ต้นปีนี้ และมีความรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 4 ทศวรรษ ประธานาธิบดี จิมมี โมราเลส เรียกประชุมฉุกเฉินหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ด้านสำนักงานธรณีวิทยาสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) รายงานเหตุแผ่นดินไหวระดับ 5.2 นอกชายฝั่งของกัวเตมาลา 1 วันหลังจากที่เกิดเหตุภูเขาไฟระเบิด
นายมัตเตโอ ซัลวินี รัฐมนตรีกิจการภายในอิตาลี เดินทางเยือนแคว้นซิซิลีทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่รับผู้อพยพที่พยายามเดินทางเข้ายุโรป โดยระบุว่า รัฐบาลอิตาลีจะไม่ใช้มาตรการที่แข็งกร้าวต่อผู้อพยพ แต่จะดำเนินนโยบายด้วยสามัญสำนึกเพื่อยุติกระบวนการที่กำลังจะทำให้อิตาลีกลายเป็นค่ายผู้ลี้ภัยของยุโรป
โดยในวันนี้กลุ่มรัฐมนตรีกิจการภายในภายในของสหภาพยุโรป หรืออียูมีกำหนดหารือเพื่อแก้ไขระเบียบการดับลินข้อกำหนดที่ระบุว่าผู้อพยพจะต้องยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยในประเทศแรกที่เดินทางไปถึง ซึ่งกลายเป็นการสร้างภาระให้กับอิตาลีและกรีซ เกิดความไม่สมดุลในการจัดการจำนวนผู้อพยพ และงบประมาณ
ส่วนสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ชาวปาเลสไตน์ยังมีการชุมนุมประท้วงที่เขตข่าน ยูนิส ทางใต้ ของฉนวนกาซา โดยความรุนแรงระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอลเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 120 คน และบาดเจ็บกว่า 3,000 คน
นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เดินทางเยือนยุโรปเป็นเวลา 3 วัน โดยเริ่มต้นที่เยอรมนี จากนั้นจะเดินทางไปฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร เพื่อโน้มน้าวผู้นำยุโรปสนับสนุนยุทธศาสตร์ว่าด้วยอิหร่าน
ด้านสถานการณ์เกาหลีเหนือ นายคิม จองอึนผู้นำเกาหลีเหนือสั่งเปลี่ยนตัวคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพ 3 ตำแหน่ง ก่อนที่จะมีการประชุมกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์เห็นว่า อาจเป็นอีกหนึ่งความพยายามในการพัฒนาทางเศรษฐกิจแบบก้าวกระโดด และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงการกำจัดผู้คัดค้านแผนการฟื้นสัมพันธ์กับเกาหลีใต้และสหรัฐฯ
นายยูคิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการทั่วไปของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือ ไอเออีเอเปิดเผยว่า ทบวงมีความพร้อมตรวจสอบโครงการนิวเคลียร์เกาหลีเหนือภายในไม่กี่สัปดาห์ หากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องบรรลุข้อตกลงทางการเมือง อย่างไรก็ตามยอมรับว่า เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ โดยการตรวจสอบครั้งสุดท้ายคือในปี 2552
และการสอบสวนกรณีรัสเซียแทรกการเมืองสหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนประธานาธิบดี ทรัมป์ให้ชนะการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ดังนั้นแม้จะมีอำนาจตามกฏหมายที่จะอภัยโทษให้กับตัวเองแต่เขาก็ไม่ได้ทำ ทั้งเห็นว่าการสืบสวนคดีนี้คือการล่าแม่มด และการแต่งตั้งอัยการพิเศษคือการแต่งตั้งที่ไม่ได้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
กรณีที่สหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการกำแพงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม นายโยชิฮิเดะ สุกะ โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า จะส่งผลร้ายต่อความสัมพันธ์และระบบเศรษฐกิจโลกภายใต้การดูแลขององค์การการค้าโลก หรือดับเบิลยูทีโอ ทั้งนี้การที่ญี่ปุ่นจะออกแถลงการณ์ด้วยถ้อยคำรุนแรงต่อสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นบ่อย แต่แถลงการณ์นี้มีขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯ ถูกโดดเดี่ยวในที่ประชุมจี7 ที่แคนาดาในช่วงสุดสัปดาห์ และสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะยกเว้นกำแพงภาษีให้ญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นเตรียมตั้งกำแพงภาษีสินค้าสหรัฐฯในมูลค่าเท่าๆ กัน
ด้านรัฐบาลเม็กซิโกเตรียมเพิ่มมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ เช่นกัน แต่ยืนยันว่าจะไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของประชาชน ก่อนหน้านี้รัฐบาลเม็กซิโกประกาศตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐแล้วหลายรายการ อาทิ เหล็กแบน เนื้อหมู แอปเปิ้ล องุ่น ชีส รวมทั้งสินค้าและอาหารอื่นๆอีกหลายรายการ
ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลง เนื่องจากคาดว่าที่ประชุมโอเปกปลายเดือนนี้จะหารือแผนการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่หายไปจากอิหร่านและเวเนซุเอลา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคมลดลง 1.06 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการลดลง 3 วันติดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 1.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.29 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 178.48 จุด หรือร้อยละ 0.72 ปิดที่ 24,813.69 จุด
เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.25 จุด หรือร้อยละ 0.45 ปิดที่ 2,746.87 จุด
แนสแดค เพิ่มขึ้น 52.13 จุด หรือร้อยละ 0.69 ปิดที่ 7,606.46 จุด
อาสาสมัครจากองค์กรพิทักษ์สัตว์ PETA รณรงค์ให้ชาวเมืองโกลกาตาของอินเดียให้ลดการใช้พลาสติก เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลกซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี และพบว่าวัวที่ถูกปล่อยให้เดินหากินอย่างอิสระในเมือง กินขยะพลาสติกและล้มตาย โดยพบว่ามีอัตราเฉลี่ยมากถึง 60 กก. และเมื่อเร็วๆ นี้มีวัวอย่างน้อย 4 ตัวในรัฐอันตรประเทศล้มตาย โดยหนึ่งในนั้นมีขยะพลาสติกในท้องถึง 80 กก.
....