การลงพื้นที่ติดตามโครงการวิจัยการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กต้นแบบในการจัดการความปลอดภัยทางถนน โดยการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ที่โรงเรียนอนุบาลบ้านยูงทอง ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี มีนักเรียนระดับชั้นอนุบาล1-3 ช่วงอายุ3-6ปี รวมจำนวน 167คน
นางมณีวรรณ สมพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลบ้านยูงทอง กล่าวว่า หลักสูตรการเรียนการสอนที่มีอยู่แล้ว โรงเรียมาปรับใช้ให้เข้ากับจุดเสี่ยงที่โรงเรียนสำรวจ รวมทั้งจุดเสี่ยงที่นักเรียนช่วยสังเกตแล้วนำมาบอกต่อ ซึ่งแต่ละคนต้องผ่าน 4-5จุดเสี่ยงกว่าจะมาถึงโรงเรียน จึงคิดกิจกรรมการเรียนการสอนที่นำเรื่องความปลอดภัยทางถนนเข้ามาสอดแทรก ด้วยการเน้นปลูกฝังตั้งแต่เด็กเล็ก ให้มีประโยชน์และสำคัญต่อการเดินทางอย่างปลอดภัยของเด็กในชีวิตประจำวัน คือ แผนการจัดประสบการณ์แบบข้อมูลย้อนกลับ คือ ช่วงอายุ 3-4ปี เน้นสอนง่ายๆตามที่เด็กมีความสนใจ ผ่านการแสดงความคิดเห็น ร้องเพลง หรือระบายสี ส่วนอายุ4-5ปี สอนปฎิบัติแบบง่ายด้วยการสนทนาโต้ตอบ หรือแสดงบทบาทสมมุติ ผ่านสื่อใบงานหรือภาพอุบัติเหตุ และอายุ5-6ปี สอนการคิดและปฎิบัติจริง ด้วยการแบ่งเป็น 2หน่วยการเรียนรู้ 1.ความปลอดภัยบนยานพาหนะ 2.การป้องกันภัยใส่ใจจุดเสี่ยง เช่น การป้องกันภัยในขณะโดยสารรถประเภทต่างๆ ไปสู่การป้องกันและการปฎิบัติตัวที่ถูกต้องขณะขับขี่หรือโดยสารรถแต่ละประเภท ด้วยการบูรณาการตามการเรียนการสอนของนักเรียนระดับอนุบาล เช่น การฝึกเดินข้ามทางม้าลาย เพื่อให้สามารถนำไปปฎิบัติในชีวิตประจำวันรวมทั้งบอกต่อผู้ปกครองได้ ซึ่งแผนการจัดประสบการณ์นี้ จะมีการประเมินผลตามการจัดกิจกรรมนั้นๆอีกด้วย สำหรับงบประมาณจะได้รับจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น และเทศบาลตำบลขุนทะเล
นายปราโมทย์ ศรีสมโภชน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลขุนทะเล กล่าวว่า เริ่มจากที่ตนเป็นผู้ใหญ่บ้านมากว่า 15ปี ทำให้มีความผูกพันกับชุมชน นำมาสู่บทบาทที่มากขึ้นจึงเห็นถึงความสำคัญของเด็กทุกคน ที่เป็นอนาคตของชาติ คิดว่าต้องสร้างระเบียบวินัย และทัศนคติที่ดีตั้งแต่เด็ก ให้เติบโตไปตามศักยภาพที่เด็กควรเป็น สำหรับงบประมาณจะมีการจัดสรรตามจำนวนของเด็ก ที่นำเข้าไปบรรจุในแผนของเทศบาลแต่ละปี นอกเหนือจากนี้ยังมีการแบ่งไปแก้ไขถนนที่เสื่อมสภาพ หรือเป็นจุดเสี่ยงในชุมชน เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย แต่ด้วยงบประมาณของท้องถิ่นที่จำกัด เมื่อเทียบกับการดูแลทั้งชุมชน ที่ต้องกระจายให้ทั่วถึงในทุกเรื่อง ทำให้ต้องทยอยดำเนินการแก้ไข โดยเฉพาะในชุมชนที่จะมีโรงเรียนจำนวน 3แห่ง แต่ถนนหน้าโรงเรียนหลังจากปรับปรุงถนนเสร็จเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยังขาดป้ายเตือน และเส้นจราจรให้ชะลอความเร็วรถ ซึ่งยังรองบประมาณปีหน้าจึงจะสามารถดำเนินการได้ โดยขณะนี้จะเป็นหน้าที่ของครูที่ต้องออกมาดูแลรับ-ส่งนักเรียนริมถนน ให้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
ท้ายที่สุดทางโรงเรียนอนุบาลบ้านยูงทอง จ.สุราษฎร์ธานี คิดว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่เราสามารถป้องกันได้ด้วยการทำตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดทุกครั้งเมื่อใช้รถใช้ถนน โดยเฉพาะการปลูกฝังระเบียบวินัยที่ดีตั้งแต่เด็ก เพื่อให้เติบโตเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของประเทศต่อไป
วริศรา ชาญบัญทิตนันท์ ผู้สื่อข่าว