นายวโรทัย โกศลพิศิษฐ์กุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่แล้วสศค.ได้ให้ข้อมูลด้านสถานะการเงินการคลังกับสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ซึ่งมูดี้ส์ พอใจกับฐานะการคลังในปัจจุบัน ขณะเดียวกันยังมองว่าไม่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์การเมืองของไทย เพราะมองว่าแม้รัฐบาลจะไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แต่สามารถดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการปฎิรูปโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งหากมีความชัดเจน และเป็นไปได้ตามแผนของการลงทุนใน EEC จะทำให้ส่งผลบวกต่อการจัดอันดับเครดิตในรอบต่อไปของไทย ซึ่งปัจจุบันมูดี้ส์ให้อันดับเครดิตของไทยไว้ที่ BBB+ และคงสถานะแนวโน้มความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ระดับมีเสถียรภาพ หรือ Stable Outlook
สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปีนี้จะขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 4 ซึ่งถือว่ายังขยายตัวได้ดี ซึ่งเป็นผลมาจากการส่งออกปีนี้ที่คาดว่าจะขยายตัวได้มากว่าร้อยละ 10 และจากตัวเลขการจองห้องพักล่วงหน้า 3 เดือน สูงสุดตั้งแต่ปี 2558 ส่วนการส่งออกเดือนเมษายนขยายตัวสูงถึง ร้อยละ 12.3 ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ติดต่อกัน และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยมีสูง 3.09 ล้านคน ขยายตัว ร้อยละ 9.4 ด้านเสถียรภาพภายในประเทศและนอกประเทศยังอยู่ในระดับที่มั่นคง โดยสินเชื่อหนี้สาธารณะต่อจีดีพีอยู่ที่ ร้อยละ 41.2 ต่อจีดีพี ยังอยุ่ในกรอบของความยั่งยืนทางการเงินการคลัง