อียูเพิ่มความเข้มงวดกฎหมายแรงงานเพื่อคุ้มครองพนักงานชั่วคราว

รัฐสภาของสหภาพยุโรป หรืออียู ผ่านกฎหมายแรงงานที่กำหนดให้บริษัทต่างๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานท้องถิ่นเมื่อส่งพนักงานชั่วคราวไปยังประเทศอื่นในกลุ่มอียู ซึ่งจะทำให้พนักงานที่ถูกส่งตัวไปทำงานในต่างประเทศจะได้รับเงินเดือนในระดับเดียวกันกับพนักงานประเทศนั้น สืบเนื่องจากการที่ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักรและเยอรมนี ร้องเรียนเกี่ยวกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากแรงงานในยุโรปตะวันออกที่มีอัตราค่าจ้างแรงงานที่น้อยกว่าแรงงานในท้องถิ่น ส่วนกลุ่มรณรงค์เบร็กซิท นำประเด็นเรื่องค่าจ้างแรงงานมาใช้ในการระดมเสียงสนับสนุน โดยกล่าวหาว่า เสรีภาพในการเดินทางและการทำงานของยุโรปกำลังบ่อนทำลายแรงงานในภาคอุตสาหกรรม เช่นการก่อสร้างและการแปรรูปอาหาร เนื่องจากผู้ประกอบการตัดค่าใช้จ่ายด้วยการนำเข้าแรงงานจากประเทศอียู เช่น โปแลนด์และโรมาเนีย แต่ผู้ประกอบการเหล่านี้ชี้แจงว่า เป็นการว่าจ้างแรงงานที่มีทักษะฝีมือที่ขาดแคลนในพื้นที่

นอกจากนี้ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่ยังระบุให้ บริษัทที่ส่งคนงานไปยังประเทศอื่นภายในอียู จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จนถึงค่าที่พัก โดยไม่ให้หักค่าใช้จ่ายเหล่านี้จากเงินเดือนของพนักงาน และที่พักที่จัดเตรียมไว้ให้ก็จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานท้องถิ่น ระยะเวลาการทำงานในต่างประเทศจะต้องไม่เกิน 12 เดือนสามารถขยายเวลาออกไปได้อีก 6 เดือน และพนักงานจะถูกควบคุมโดยกฎหมายแรงงานของประเทศเจ้าบ้าน ซึ่งทางรัฐสภายุโรป กำหนดให้ประเทศสมาชิก 28 ประเทศมีเวลา 2 ปีในการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับกฎหมายอียู

...

F163