วันนี้เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารขนส่งสาธารณะบริเวณประตู 10 สนามบินสุวรรณภูมิ นายชูศักดิ์ ตนะวีระกุล เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจการที่ 16 เปิดเผยว่า ขณะนี้ในพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ค่อยมีเรื่องร้องเรียนรถแท็กซี่เหมือนในอดีต แต่เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะยังคงเน้นย้ำตรวจรถแท็กซี่ โดยเฉพาะผู้ที่นำรถแท็กซี่หมดอายุมาขับรับผู้โดยสาร ไม่ตรวจรอบมิเตอร์ และไม่ตรวจสภาพรถ
นายชูศักดิ์ ยอมรับว่า สำหรับแท็กซี่ที่มีการเรียกเก็บค่าโดยสารแบบเหมาจ่าย มักจะออกมาขับในช่วงเวลากลางดึก ประมาณตี 3-4 เพื่อหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก
จากการลงพื้นที่ตรวจตั้งแต่เวลา 09.30 น. พบผู้กระทำผิดแล้วหลายราย โดยออกใบสั่งไป 5 ราย ในความผิดไม่นำรถไปตรวจรอบมิเตอร์ และปรับ 3 ราย ในความผิดไม่นำรถไปตรวจรอบมิเตอร์, ใช้รถหมดอายุ และปรับแต่งรถโดยเปลี่ยนล้อ จากล้อเดิมเป็นล้อแม็กซ์ รวมทั้งปรับรถบัส ในความผิดไม่เปิดใช้ระบบ GPS
สำหรับการตรวจรถแท็กซี่ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก จะดูในเรื่องใบขับขี่รถโดยสารสาธารณะ, ป้ายระบุข้อมูลของผู้ขับรถ ที่จะต้องมีติดที่หน้ารถและหลังเบาะข้างคนขับ, ป้ายทะเบียนรถที่จะต้องติดที่ด้านในประตู, การตรวจมิเตอร์, การเสียภาษีประจำปี, อุปกรณ์ส่วนควบ ทั้งภายในและภายนอกรถ, การติดฟิล์มกระจก ที่จะต้องห้ามติดฟิล์มดำเด็ดขาด, การห้ามนำรถแท็กซี่ป้ายแดงมาขับรับผู้โดยสาร, การแต่งกาย เป็นต้น
เช่นเดียวกับรถบัสโดยสาร ที่มาส่งนักท่องเที่ยวบริเวณสนามบินสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกจะดูใบอนุญาตขับรถโดยสาธารณะ, การเสียภาษีประจำปี, อุปกรณ์ส่วนควบทั้งภายในและภายนอกรถ, จำนวนที่นั่ง, การเสริมเบาะ, เจาะทะลุระหว่างห้องคนขับกับห้องสัมภาระ ซึ่งความผิดข้อดังกล่าวเป็นโทษร้ายแรง ต้องปรับถึง 5,000 บาท และจะต้องพ่นสีห้ามใช้ จนกว่าจะทีการแก้ไข เพราะเคยมีเหตุขโมยของผู้โดยสารมาแล้ว เป็นต้น
ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข