กรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการเข้าจับกุมนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซ่องโจร และปลอมพระปรมาภิไธย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทราบว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่มีผลกระทบต่อสังคม ทำให้หลายคนไม่เข้าใจและมองว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ในส่วนตัวขอโทษไปแล้ว จึงขอความเห็นใจให้ประชาชนเข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ด้วย ซึ่งหากการปฎิบัติงานเกินกว่าเหตุ จะมีมาตราการลงโทษอยู่แล้ว ทั้งในทางพ.ร.บ.วินัยตำรวจ การลงทัณฑ์ และถ้าถึงขั้นเป็นคดีอาญาก็จะต้องดำเนินการ ยืนยันว่าทุกอย่างมีขั้นตอนในการปฏิบัติไว้ทั้งหมดแล้ว ขออย่าทำให้สับสน พร้อมกล่าวด้วยว่า ในครั้งนี้ถือว่าโชคดี ที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเกิดการสูญเสีย
ส่วนกรณีพลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เรียกร้องให้ใช้ม.44 ปลดพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติพร้อมทีมจับนายสุวิทย์ นายกฯ ระบุว่า จะไม่ทำงานภายใต้แรงกดดันเด็ดขาด ดังนั้นจึงต้องไปดูว่าอะไรถูกอะไรผิด ซึ่งเรื่องการลงโทษ มีหลายมาตรการอยู่แล้ว
กรณีกระแสสังคมนำภาพถ่ายพลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กับอดีตพระพุทธะอิสระออกเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดีย นายกรัฐมนตรี ขออย่าเอาเรื่องในอดีตมารวมกับเรื่องปัจจุบัน เพราะตนเองเคารพพระทุกรูป อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมาก็เดินทางไปหลายวัด ซึ่งวันนั้นเดินทางไปเป็นประธานในพิธีหล่อพระ เพราะมีคนเห็นว่าหากเชิญ ผู้บัญชาการทหารบกไปกันครบทั้ง 4 คน พระจะขลัง ทั้งนี้ในช่วงท้ายผู้สื่อข่าวพยายามถามนายกรัฐมนตรีอีกว่า พระขลังจริงหรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี ยังตอบสื่อว่า แล้วขลังจริงไหม และรู้หรือไม่พระพุทธศาสนาสอนอะไร ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ที่เป็นหนทางดับทุกข์ ซึ่งรัฐบาลก็กำลังหาหนทางดับทุกข์ให้ประเทศอยู่
ผู้สื่อข่าว:ปิยะธิดา เพชรดี