ทรัมป์-คิมประชุมตามกำหนดเดิม/รัสเซียเตือนวิกฤติการเงิน/ฝรั่งเศสประท้วงแรงงาน

ประธานาธิบดี มูน แจอิน ของเกาหลีใต้ยืนยันว่านาย คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ มีความมุ่งมั่นที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี สร้างสันติภาพถาวร รวมทั้งเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐตามกำหนดคือในวันที่ 12 มิถุนายนที่สิงคโปร์ หลังจากที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือมีความไม่แน่นอนเกิดขึ้น

ส่วนการประชุมในระดับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายนนี้

ประธานาธิบดี ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวหาเอฟบีไอว่าส่งสายลับเข้ามาปะปนในทีมรณรงค์หาเสียงของเขาในปี 2559 ตามคำสั่งของพรรคเดโมแครตที่เป็นพรรครัฐบาลอยู่ในเวลานั้น จึงให้กระทรวงยุติธรรมสอบสวนการปฏิบัติการที่ผิดกฎหมาย แต่เดโมแครตแย้งว่าเป็นกลวิธีในการเบี่ยงเบนประเด็นและมุ่งลดความน่าเชื่อถือนายโรเบิร์ต มุลเลอร์ อดีตผู้อำนวยการเอฟบีไอ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัยการพิเศษสอบสวนคดีรัสเซียเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2559

กองทัพเรือสหรัฐส่งเรือพิฆาตและเรือลาดตระเวนเลียบเกาะหลายแห่งในหมู่เกาะพาราเซลที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ ซึ่งสหรัฐฯ อ้างว่าเป็นปฏิบัติการเสรีภาพในการเดินเรือที่ทะเลจีนใต้ โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยกเลิกคำเชิญกองทัพเรือจีนเข้าร่วมการฝึกซ้อมทางทะเล ในมหาสมุทรแปซิฟิก2018 ที่สหรัฐฯเป็นเจ้าภาพ

การประชุมเศรษฐกิจนานาชาติประจำปีเซนต์ ปีเติร์สเบิร์ก ของรัสเซีย ในปีนี้มีผู้แทนจากบรรษัท และธุรกิจมากกว่า 170 คนเข้าร่วมการประชุมร่วมด้วยประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรี ชินโสะ อาเบะ ของญี่ปุ่น นางคริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ ไอเอ็มเอฟ นายหวัง ฉีซาน รองประธานาธิบดีจีน ซึ่งผลของการประชุมมีการลงนามข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างรัสเซียกับหลายประเทศ และประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดวิกฤตการเงินระดับโลกชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นประชาคมโลกต้องร่วมกันหาทางป้องกัน ด้วยการจัดตั้งกฎระเบียบทางเศรษฐกิจที่สามารถทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกดำเนินต่อไปได้

กลุ่มสหภาพแรงงาน พรรคการเมืองและผู้สนับสนุนรวมตัวประท้วงบนท้องถนนในหลายเมืองของประเทศฝรั่งเศส เพื่อต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรื่องการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ประท้วงระบุว่าเอื้อประโยชน์ต่อคนรวย การประท้วงในครั้งนี้เกิดขึ้นใน 142 จุดทั่วประเทศซึ่งสหภาพแรงงาน ระบุว่ามีผู้ร่วมชุมนุมประท้วง 250,000 คน

นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด ผู้นำมาเลเซีย เปิดเผยว่า จะมีการดำเนินนโยบายเพื่อลดหนี้สาธารณะ ที่มีจำนวนสูงกว่า 1 ล้านล้านริงกิต และจะทบทวนโครงการลงทุนขนาดใหญ่กับต่างประเทศในสมัยรัฐบาลของนายนาจิบ ราซัค โดย 1 ในโครงการที่กำลังมีการตรวจสอบ คือโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟชายฝั่งตะวันออก (อีซีอาร์แอล) ใช้งบประมาณ 55,000 ล้านริงกิต ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย และเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ระยะทาง 350 กิโลเมตร เชื่อมต่อระหว่างกรุงกัวลาลัมเปอร์กับเขตใจกลางเมืองของเกาะสิงคโปร์ ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2569

ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ มีคำสั่งให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม และกระทรวงแรงงาน ออกมาตรการป้องกันการตกเป็นเหยื่อของการค้ากำไรเกินควร หลังพบสินค้าราคาแพงขึ้นเนื่องจากต้นทุนน้ำมันดิบตลาดโลก และกฏหมายปฏิรูปภาษี ที่เป็นโครงการปฏิรูปภาษีอย่างเบ็ดเสร็จของรัฐบาล ซึ่งจะลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ปรับเพิ่มภาษีเชื้อเพลิง รถยนต์ ถ่านหิน และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพื่อชดเชยรายได้ที่ขาดหายไป

และปิดท้ายที่สำนักงานศุลกากรจีน แจ้งว่า บริษัทเอฟเอดับเบิลยู-โฟล์คสวาเกน ออโตโมทีฟ และฟอร์ด (ไชน่า) เตรียมเรียกคืนรถยนต์นำเข้ากว่า 20,000 คันในจีน ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยเอฟเอดับเบิลยู-โฟล์คสวาเกน มีแผนที่จะเรียกคืนรถยนต์รุ่น A4 Allroad และ A5 ที่ผลิตในระหว่างวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 ถึง 8 พฤศจิกายน 2556 กว่า 20,278 คัน จากปัญหาปั้มน้ำหล่อเย็นในเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ จึงจะมีการเปลี่ยนอะไหล่ให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่วนบริษัทฟอร์ด (ไชน่า) เตรียมเรียกคืนรถยนต์รุ่น F-150 SuperCrew ที่ผลิตในระหว่างวันที่ 6 มิถุนายน ถึง 25 พฤศจิกายน 2559 เนื่องจากปัญหาอุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์

.....