ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างนายวิลเบอร์ รอสส์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ฯอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องสินค้าหลักๆในการทำสงครามทางการค้าทั่วโลกครั้งใหม่ ต่อเนื่องจากการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจำพวกเหล็กและอะลูมิเนียมเมื่อต้นปี ซึ่งกระทบผู้ส่งออกเหล็กและอะลูมิเนียมจากประเทศจีนและกลุ่มสหภาพยุโรปอย่างหนัก แต่ในรอบใหม่นี้ สหรัฐฯจะมุ่งเน้นในเรื่องรถยนต์ โดยรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยเรื่องนี้กับนักข่าว หลังการหารือกับนายทรัมป์เมื่อวานว่า เขาจะเริ่มทำการสอบสวนภายใต้มาตรการ 232 เพื่อดูว่าการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศ ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถอเนกประสงค์รุ่นเอสยูวี รถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็กและชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ ว่ามีผลกระทบความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯหรือไม่
นายรอสส์ กล่าวว่า สหรัฐฯถือว่าอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ เป็นหนึ่งในจุดแข็งของสหรัฐฯ โดยส่วนตัว เขาเชื่อว่ามีหลักฐานชัดเจนมาหลายสิบปีว่า การนำเข้ารถยนต์จากต่างแดน บั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศสหรัฐฯ เขาไม่ได้พูดชัดเจนว่าสหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์เท่าใด แต่หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลของสหรัฐฯคาดว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจจะขึ้นภาษีนำเข้าร้อยละ 25 ระบุว่าหากในที่สุด สหรัฐฯตัดสินใจขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ ก็อาจจะกระทบผู้ส่งออกจากเม็กซิโก แคนาดา ญี่ปุ่น เยอรมนีและเกาหลีใต้ และจะกระทบผู้ส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์รายใหญ่จากแคนาดา เม็กซิโก ประเทศจีน เยอรมนีและบราซิล
ทีมต่างประเทศ
FilePhoto