เที่ยงครึ่งวัน:รองนายกฯประวิตร ให้ศาลพิจารณาประกันต้วแกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง/พรเพชรส่งถามศาลรธน.ต้องคำวินิจฉัยทางการกรณีร่างพรป.สว.หรือไม่/เกาหลีเหนือโต้สหรัฐ

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30

+++กรณีกลุ่มตรวจสอบสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอทช์ รวมถึงองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในต่างประเทศเรียกร้องให้ปล่อยตัว14นักเคลื่อนไหวกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่ากลุ่มผู้ชุมนุมทำผิดกฎหมายหรือไม่ เราเปิดโอกาสให้มีการชุมนุมอยู่กับที่ แต่เมื่อมีการเคลื่อนที่ก็ต้องดำเนินคดี ส่วนจะให้มีการประกันตัวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เรื่องของศาล ไม่ใช่เรื่องของตน

+++ส่วนประเด็นปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งปัญหาราคาก๊าซหุงต้มปรับตัวสูงขึ้น และราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นผลจากราคาน้ำมันขึ้นทั้งโลก ขอถามกลับว่า ที่ผ่านมาน้ำมันไม่ขึ้น 4 ปี ไม่เห็นมีใครร้องอะไร เวลาได้กำไรกันไปไม่ร้อง ก็ต้องเสียสละบ้าง รัฐบาลก็พยายามควบคุมราคาน้ำมันไม่ให้เกิน 30 บาท ส่วนกรณีที่โลกโซเชียลออกมาถล่มเรื่องเศรษฐกิจของรัฐบาล พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า 10 ปีที่ผ่านมามีไม่ถล่มรัฐบาลไหนบ้าง ส่วนที่มีการสร้างเว็บไซต์บิดเบือนให้เกิดความเข้าใจผิดว่าหากน้ำมันราคาแพงให้เติมน้ำเปล่าแทนนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามอยู่ว่าเป็นฝีมือใคร ต้องดำเนินคดี ซึ่งยังไม่สามารถตอบได้ว่าอยู่ในไทยหรือต่างประเทศ

+++เมื่อถามว่า ปัญหาเศรษฐกิจขณะนี้ จะกระทบต่อคะแนนนิยม คสช.หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่กังวล คสช.ก็ดำเนินการเต็มที่

+++นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ทำหนังสือด่วนถึงประธานศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 24 พ.ค. เพื่อสอบถามว่า ในสถานการณ์เร่งรัดเรื่องการเลือกตั้งที่เชื่อมโยงกับร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ จำเป็นต้องรอคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการก่อนหรือไม่ เพราะอยากเร่งรัด ไม่ต้องรอแนวทางที่เคยปฏิบัติมา เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยที่เป็นมติเอกฉันท์ออกมาแล้วจะเพียงพอหรือไม่ที่จะเสนอต่อรัฐบาลได้ทันที

+++ ศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้องคดีพนักงานอัยการคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางสุทธิรัตน์ หรือสุธาสินี หรือแอน มุตตามระ ไฮโซชื่อดัง วัย 57 ปี ภรรยาอดีตพระมิตซูโอะ คเวสโก ชิบาฮาชิ อายุ 67 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสุนันทวราราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เป็นจำเลยในความผิดฐานลักทรัพย์ จากกรณีเมื่อระหว่างวันที่ 9 ส.ค.- 2 ก.ย. 2553 ต่อเนื่องกัน จำเลยได้ลักเอาเงินภาษีมูลค่าเพิ่มที่ได้รับคืนจำนวน 52,585,000 บาท ของบริษัท ภูเก็ตเพนนินซูลา จำกัด ผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ของตัวเองโดยทุจริตศาลพิเคราะห์เห็นว่า พยานหลักฐานที่อัยการโจทก์และหุ้นส่วนซึ่งเป็นโจทก์ร่วมนำสืบมายังฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำผิดฐานลักทรัพย์ เพราะหลังจากรับเช็คคืนเงินภาษีจากสรรพากรเขต 1 แล้วได้นำเข้าบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงศรีฯ ชื่อบัญชีของบริษัท ซึ่งตามเอกสารหลักฐานของจำเลยก็ระบุว่าได้มีการลงบัญชีบริษัทแล้ว

+++ขณะที่เหตุที่จำเลยต้องถอนเงินนั้นออกมาเข้าบัญชีส่วนตัวและผู้อื่นบางส่วน ก็เป็นการชำระหนี้งานก่อสร้างโรงแรมของบริษัทที่มีจำนวนมาก การกระทำของจำเลยเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ใจและไม่ได้กระทำไปเพื่อประโยชน์ของตนเองหรือผู้อื่น แต่เป็นการแก้ปัญหากิจการภายในของบริษัทเอง จึงพิพากษายกฟ้อง

++นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส. สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์  ยอมรับว่า จะมีเตรียมจัดตั้ง “พรรครวมพลังประชาชาติไทย” และจะจดแจ้งชื่อในวันที่ 25 พ.ค. แต่ยืนยัน นายสุเทพ  เทือกสุบรรณไม่ได้ตั้งเอง แต่จะเข้ามาช่วยเท่านั้น เพราะยืนยันมาตลอดว่า จะไม่เล่นการเมืองอีกแล้ว ส่วนหัวหน้าพรรคต้องรอความชัดเจนในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้อีกครั้ง

+++นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง เป็นหัวหน้าพรรค และมีบุคคลที่มีชื่อเสียงไปร่วมอีกหลายคน อาทิ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสุริยะใส กตะศิลา นายพิเชษฐ์ พัฒนโชติ นายสำราญ รอดเพชร และ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก รวมถึงจะมีการดึงตัวอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมงานด้วย นอกจากนายเชน และนายธานี เทือกสุบรรณน้องชายนายสุเทพ อาทิ อดีต ส.ส.นราธิวาส คือ นายสุรเชษฐ์ แวอาแซ และนายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง ไปร่วม มีการตั้งเป้าว่าพรรคจะ ได้ ส.ส.ประมาณ 25-30 คน ส่วนนายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีต ส.ส.กทม. จะตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรค การเมืองของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯด้วย

+++การประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ที่สิงคโปร์ ยังมีความไม่แน่นอนว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ หลังจากที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์เพียงฝ่ายเดียว เมื่อวันอังคาร และเกาหลีเหนือส่งสัญญาณว่าจะยกเลิกการประชุม

ด้านสำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือ รายงานคำกล่าวของนางโช ซอนฮุย นักการทูตของเกาหลีเหนือ ที่เข้าร่วมการหารือระดับประเทศมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งกล่าวว่าในฐานะที่ทำงานด้านการต่างประเทศกับทางสหรัฐฯ มาเป็นเวลานาน เธอไม่ประหลาดใจที่นาย ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี ที่กล่าวว่า เกาหลีเหนือจะมีอนาคตเหมือนลิเบีย ว่าเป็นคำพูดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวร้าว และโง่ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือไม่ร้องขอให้สหรัฐฯมาเจรจาด้วย ทั้งกล่าวด้วยว่า สหรัฐฯจะได้พบกับเกาหลีเหนือที่ห้องประชุมหรือไม่ หรือจะได้เผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือในการทำสงครามนิวเคลียร์ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของสหรัฐเอง