*รองผบ.ตร.คุมคนชุดดำทำแผนแยกคอกวัว ย้ำไม่จับแพะ*

การทำแผนคดีคนร้ายชุดดำใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553 พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้ได้นำผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 4 คน ประกอบด้วย นาย กิตติศักดิ์ สุ่มศรี นาย ปรีชา อยู่เย็น นาย ชำนาญ ภาคีฉาย และนาย รณฤทธิ์ สุริชา ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดรับสารภาพ และให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี
โดยจุดแรกที่ทำแผนประกอบคือ บริเวณชุ้มสายโทรศัพท์ ถนนตะนาว แยกคอกวัว นาย ชำนาญ ใช้ปืน M16 ยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหาร และนาย กิตติศักดิ์ ใช้ปืน M79 ยิงแต่ปืนขัดลำกล้อง จึงใช้ปืนอาก้าอีกกระบอกยิงแทน จุดต่อมา หน้าร้าน White rose Studio ถนน ตะนาว นาย ปรีชา ใช้ปืน M79 ยิงใส่เต้นท์ทหาร
จุดต่อมา เป็นจุดคัดกรอง ตำรวจตรวจเจออาวุธ หลังจาก นาย ธัมมรัตน์ สุ่มศรี ใช้ปืน M79 เข้าไปยิงใส่จ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจสามารถยึดปืนได้ แต่นาย ธัมมรัตน์ ใช้จังหวะชุลมุนหลบหนี ซึ่งปัจจุบัน นาย ธัมมรัตน์เสียชีวิตแล้วด้วยโรคประจำตัว
และจุดสุดท้าย คือ จุดจอดรถ ที่เป็นจุดรับและส่งชายชุดดำก่อเหตุ บริเวณวัดมหรรณพารามวรวิหารก่อนที่จะออกรถไปสวนกับทหารบริเวณสะพานวันชาติ และได้ด่าทอทหาร จนทหารสามารถจำหน้าคนร้ายได้ ส่วนอาวุธสงครามที่ใช้ถูกใช้ในหลายเหตุการณ์และเชื่อว่าชายชุดดำและอาวุธสงครามมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มอื่นในช่วงเหตุการณ์รุนแรงปี 2553 โดยมีการกระทำเป็นขบวนการและวางแผนมาก่อนเป็นอย่างดี ขณะนี้กำลังสรุปสำนวนคดีและรายละเอียดต่างๆอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในปัจจุบัน เพราะจะส่งผลถึงพยานหลักฐานและอาจทำให้ผู้ที่หลบหนีอยู่ไหวตัวได้ ส่วนข้อสงสัยถึงการจับกุมที่เพิ่งจับกุมได้หลังผ่านมา 4 ปี พล.ต.อ.สมยศ ระบุว่า ทำงานไปตามหน้าทีที่ได้รับมอบหมายจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ที่มุ่งเน้นให้สร้างความยุติธรรมและทำงานอย่างรอบคอบ และตัวเองเพิ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลฝ่ายความมั่นคงได้ไม่นาน ซึ่งมองว่าคดีคลี่คลายไปมากขึ้น ไม่ได้มองถึงอดีตว่าเหตุใดคดีถึงไม่คืบหน้า และเชื่อว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่จะขยายผลไปเบื้องหลังได้ รวมทั้งเชื่อว่าศาลมีความยุติธรรมมากพอในการตัดสินคดี ไม่มีการจับแพะรับบาป ส่วนสถานที่จับกุมยังไม่สามารถบอกได้ เพราะจะส่งผลต่อรูปคดี ส่วนการติดตามตัว นางสาว กริชสุดา คุณะแสน นักเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ที่เป็นผู้จ้างวานชายชุดดำ กำลังติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี /ธีรวัฒน์