สศค.ไม่มีแนวคิดลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน/เวเนฯ ขับทูตสหรัฐฯออกนอกประเทศตอบโต้ถูกคว่ำบาตร

+++นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ยังไม่กระทบกับการขยายตัวเศรษฐกิจอย่างมีนัยสำคัญ จากการประเมินของกระทรวงการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวได้ร้อยละ 4.2  รัฐบาลได้ติดตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ว่าจะส่งกระทบกับผู้บริโภคจนเกิดความลำบากและเศรษฐกิจชะลอตัวหรือไม่ ราคาน้ำมันต้องเป็นไปตามกลไกตลาด ในส่วนของกระทรวงการคลังยังไม่มีแนวคิดลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง เพื่อทำให้ราคาน้ำมันถูกลง เพราะจะกระทบกับการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล ส่วนการบรรเทา หรือแนวทางการให้ความช่วยเหลือโดยใช้กลไกของกองทุนน้ำมัน เป็นเรื่องของกระทรวงพลังงานที่จะพิจารณาใช้ในสถานการณ์ที่มีความเหมาะสม

+++ กระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยที่ผู้ประกอบการบางภาคอุตสาหกรรมจะขอปรับราคาสินค้าและบริการขึ้น เพราะราคาน้ำมันเพิ่งเพิ่มขึ้นได้ระยะเดียว หากให้ปรับขึ้นได้ เมื่อราคาน้ำมันลดลงก็ต้องปรับราคาสินค้าและบริการลดลงด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นแล้วไม่ยอมลด จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม

+++ประธานาธิบดีนิโครัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา สั่งขับอุปทูตและนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯออกนอกประเทศภายใน 48 ชั่วโมง

โดยประกาศให้นายท็อดด์ โรบินสัน อุปทูตสหรัฐฯประจำกรุงการากัส ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงสุดของรัฐบาลวอชิงตันในเวเนซุเอลา ณ ปัจจุบัน และนายไบรอัน นารานโจ ผู้ช่วยอุปทูต มีสถานะเป็น บุคคลไม่พึงปรารถนา และต้องเดินทางออกจากเวเนซุเอลาภายใน 48 ชั่วโมง ตอบโต้ที่ถูกสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรรอบใหม่หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดี ทำให้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ยาวไปจนถึงปี 2025 แม้จะถูกฝ่ายค้านและนานาชาติวิจารณ์ว่าไม่เป็นธรรม และมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเพียงร้อยละ 46

+++นายมาดูโร ชนะนายเฮนรี ฟัลคอน หัวหน้าพรรคก้าวหน้า ที่ร้อยละ 68 ต่อ 22 ท่ามกลางการต่อต้านของฝ่ายค้านซึ่งส่วนใหญ่คว่ำบาตรการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส พร้อมเรียกร้องให้จัดเลือกตั้งใหม่ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่หลอกลวง  

+++ขณะเดียวกัน นายมาดูโร กล่าวประณามรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าการเพิ่มมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจต่อเวนเนซุเอลา เป็นเจตนาเพื่อสร้างบรรยากาศที่ก้าวร้าวต่อชาวเวเนซุเอลา

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาควาสงบแห่งชาติ พร้อมคณะรัฐมนตรีหลายคน เช่น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ เนื่องจาก ในวันต้นไม้โลก และพบประชาชนในพื้นที่ พร้อมมอบนโยบายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภาคกลาง 7 จังหวัด นายกฯ ได้เข้าเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูพื้นที่ที่เสื่อมโทรมเขาชะงุ้มอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ จังหวัดราชบุรี และนายกฯ ได้มอบพันธุ์กล้าต้นยางนาให้แก่ผู้ว่าฯ 7 จังหวัด เช่น ราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม เพชรบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม และ สมุทรสาคร ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านได้มาผูกผ้าขาวม้าเพื่อต้อนรับนายกฯและขอถ่ายเซลฟี่ แต่นายกฯ ได้บอกว่า รภป.เขาห้ามถ่ายภาพเดี๋ยวจะเกิดความวุ่นวาย เอาไว้เดี๋ยวเขาจะถ่ายรูปหมู่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้อุ้มลิงชิมแปนซีซึ่งเป็นลิงของกลางที่เจ้าหน้าที่ได้ล่อซื้อจากการค้าขายที่ผิดกฎหมายและอยู่ในช่วงของการประสานส่งคืนประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งลิง 2 ตัวนี้มีชื่อว่า ชิซูกะและโนบิตะเป็นลิงตัวผู้ ตัวเมียที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ดูแลอยู่  

+++พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณฝ่ายความมั่นคง ดูแลม็อบชุมนุมสงบ สันติ ไม่รุนแรง ขอให้ประชาชนเข้าใจ เพราะการชุมนุมไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร และ คสช.ไม่ใช่ศัตรูใคร

แฟ้มภาพ