พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แถลงจับกุมชาวอินเดีย ซึ่งเคยใช้ทะเบียนสมรสที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากอยู่ในราชอาณาจักร โดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายปราบาห์การ์ ซิงห์, นายริเตซ กูมาร์, นายแมนจี๊ต มาลลาห์ และเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร จำนวน 5 ราย คือ นายสุรัช ปรากาศ ซิงห์, นายราจู ชาร์มา, นายไชเรซ กูมาร์ ทริปาตี้, นายวิเจนดร้า นิชาร์ด, นายบาจัน นิชาร์ด รวมทั้งสิ้น 8 ราย
การจับกุมครั้งนี้ เนื่องจาก ได้รับการร้องเรียนจากหญิงไทยหลายราย ที่พบว่า มีรายชื่อจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย แต่ไม่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อนและไม่รู้จักชาวอินเดียที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนสมรส จากการตรวจสอบพบว่ามีรายชื่อหญิงไทยจำนวน 300 ราย ที่อาจจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียโดยมิชอบ หรือโดยอำพราง และต่อมามีชาวอินเดียบางราย นำทะเบียนสมรสที่ออกโดยส่วนราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ไปใช้ในการยื่นขออยู่ต่อในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว โดยอ้างเหตุในการขออยู่ต่อเพื่ออุปการะภรรยา หรือเยี่ยมคู่สมรสชาวไทย ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้ต้องเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร ส่วนรายชื่อที่เหลือประมาณ 1,700 ราย เจ้าหน้าที่ จะต้องตรวจสอบว่ารายชื่อผู้จดทะเบียนสมรสได้อยู่กินกันจริงหรือไม่ หากพบความผิดปกติจะถูกเพิกถอนใบสมรสทันที
นอกจากนี้ ตำรวจได้ออกหมายจับชาวอินเดียอีกกว่า 300 ราย ที่มีพฤติการณ์แอบอ้างการจดทะเบียนกับหญิงไทยเพื่ออยู่ในประเทศไทย ต่อมาดำเนินคดี โดยมีผู้กระทำผิดบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ ขณะที่บางส่วนยังคงอยู่ในประเทศไทย
เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ขยายผลจับชาวต่างชาติอยู่ในราชอาณาจักรไทยเกินกำหนด หรือโอเวอร์สเตย์ โดยขยายผลตรวจสอบรายชื่อบัตรประชาชนหญิงไทย มากกว่า 2,000 ราย ที่ถูกปลัดอำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี 2 ราย และเจ้าหน้าที่ธุรการ รวมทั้งสิ้น 3 ราย ร่วมกันทุจริตนำรายชื่อ เช่น สำเนาการกู้ยืมเงิน หรือรายชื่อที่ถูกคนใกล้ชิดนำไปส่งต่อ จดทะเบียนสมรสโดยมิชอบ ก่อนส่งกลับไปให้เพื่อรับเงินค่านายหน้ารายชื่อละ 2,000 บาท ขณะนี้ผู้กระทำผิดทั้ง 3 ราย ถูกไล่ออกจากราชการ ข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ตั้งแต่ปี 2558
เบื้องต้น ช่วยเหลือพาผู้หญิงไทยซึ่งมีรายชื่อเป็นคู่สมรสของชาวอินเดีย ไปทำการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรส ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวแล้วจำนวน 13 ราย และอยู่ระหว่างการประสานติดตามผู้ที่มีรายชื่อตกเป็นคู่สมรสโดยที่ตนเองไม่ทราบเรื่องดังกล่าวมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข