ทรัมป์ เปรยอาจเลื่อนเจรจากับคิม/ตร.อินเดีย กราดยิงใส่ผู้ชุมนุมคัดค้านปิดโรงงานทองแดง/ระเบิดที่สถานีรถบัสในอัฟกานิสถาน

23 พฤษภาคม 2561, 05:15น.


+++ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แถลงระหว่างการต้อนรับประธานาธิบดีมุน แจ อิน แห่งเกาหลีใต้ ที่เดินทางมาเยือนที่ทำเนียบขาวกรุงวอชิงตันว่า การประชุมสุดยอดระหว่างเขากับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนืออาจไม่เกิดขึ้นตามกำหนดที่ประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 12 มิ.ย. แต่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังก็ได้



+++ประธานาธิบดีทรัมป์ ทุ่มเทอย่างมากกับความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นจากการประชุมสุดยอดระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับผู้นำเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯรวมถึงผู้สังเกตการณ์จากภายนอกต่างก็เชื่อว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินไปตามแผน แต่เมื่อใกล้จะถึงวันตามที่กำหนดไว้ ความเห็นต่างระหว่างสองฝ่ายและผลประโยชน์ที่วางไว้อย่างมากกลับปรากฏให้เห็นชัดเจน



+++ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับข้อตกลงและเกาหลีเหนือแสดงเจตนาที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์แต่กลับมามีปัญหาเพราะเกาหลีเหนือไม่เห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของสหรัฐฯที่ให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธแต่เพียงฝ่ายเดียว นอกจากนั้น เกาหลีเหนือ ยังได้ยกเลิกการเจรจาระดับสูงกับเกาหลีใต้ในนาทีสุดท้ายเพื่อประท้วงการร่วมซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯกับเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ เชื่อว่า ผู้นำเกาหลีเหนือมีเจตนาที่จะปลดอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งผู้นำสหรัฐฯเชื่อว่าผู้นำเกาหลีเหนือจริงจังในเรื่องนี้ และหากเป็นเช่นนั้นจริง เขาก็จะมีความสุขที่สุดหากข้อตกลงได้ผล



+++รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ของสหรัฐฯ เตือนนายคิม ว่า ชะตากรรมของเกาหลีเหนือ อาจจะจบลงคล้ายกับลิเบีย ถ้าหากเกาหลีเหนือ ไม่ยอมทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หารือเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหาโดยยึดรูปแบบของลิเบียเป็นหลักและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็พูดชัดเจนว่า เกาหลีเหนืออาจจะลงเอยในลักษณะเดียวกับลิเบีย ถ้าหากว่าผู้นำเกาหลีเหนือไม่ยอมทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ไม่ใช่การข่มขู่



+++กลุ่มผู้สื่อข่าวต่างชาติประมาณ 20 คน ซึ่งมีทั้งผู้สื่อข่าวจากสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย รวมตัวกันที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เพื่อโดยสารเที่ยวบินไปยังกรุงเปียงยาง เพื่อร่วมสังเกตการณ์การรื้อถอนและทำลายสิ่งปลูกสร้างภายในนิคมนิวเคลียร์ปุงกเย-รี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ ตามกำหนดระหว่างวันที่ 23- 25 พ.ค.



+++ขณะที่ กระทรวงรวมชาติในกรุงโซล ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง"กรณีที่เกาหลีเหนือไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวของเกาหลีใต้ ร่วมสังเกตการณ์ช่วงเวลาสำคัญ ผู้สื่อข่าวชาวเกาหลีใต้ 8 คน ซึ่งรัฐบาลโซลส่งชื่อไปก่อนหน้านี้ เดินทางไปรอที่กรุงปักกิ่ง เพื่อหวังว่าจะได้รับการอนุมัติในนาทีสุดท้าย แต่ไม่เป็นผล



+++อดีตนายกฯ นาจิบ ราซัค ของมาเลเซีย ไปให้การต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริต กรณีถูกกล่าวหาโอนเงินกองทุนพัฒนามาเลเซียกว่า 330 ล้านบาท เข้าบัญชีตัวเอง ในการสอบสวนครั้งนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตของมาเลเซีย หรือ เอ็มเอซีซี มุ่งเน้นที่จะสืบหาว่าเงินจำนวนดังกล่าวถูกโอนย้ายจากบริษัทเอส อาร์ ซี อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานในเครือของกองทุนวันเอ็มดีบีที่ลงทุนในต่างประเทศ เข้ามาอยู่ในบัญชีของนายนาจิบได้อย่างไร เงินดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกกล่าวหาว่า ถูกยักยอกจากกองทุนวันเอ็มดีบี เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ นายนาจิบพ่ายแพ้การเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม แม้ว่า นายนาจิบปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดนับตั้งแต่เกิดเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับโครงการนี้ ปี 2558 แต่เขาก็ได้โยกย้ายอธิบดีอัยการ และเจ้าหน้าที่เอ็มเอซีซีหลายคน ในการสอบสวน นายนาจิบ กล่าวว่าเงินจำนวน 681 ล้านดอลลาร์ หรือราว 20,000 ล้านบาท ในบัญชีเงินฝากส่วนตัวของเขาได้รับบริจาคมาจากราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ไม่ได้มาจากกองทุนวันเอ็มดีบี



+++ตำรวจอินเดีย ใช้กระสุนจริงกราดยิงใส่ประชาชนหลายพันคนที่เมืองเชนไน รัฐทมิฬนาฑู ทางภาคใต้ของอินเดีย ที่ประท้วงเรียกร้องให้ปิดโรงงานทองแดงแห่งหนึ่ง เนื่องจาก กังวลต่อปัญหามลพิษ ทำให้มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ บาดเจ็บอีกราว 20 คน รายงานข่าวระบุว่า ผู้ประท้วงบุกเข้าไปในสำนักงานบริหารท้องถิ่นแห่งหนึ่งและจุดไฟเผา หลังไม่ได้รับอนุญาตให้จัดชุมนุมที่โรงงานถลุงแร่ ขณะที่ เจ้าหน้าที่อ้างว่าตำรวจตัดสินใจใช้กระสุนจริง หลังจากความพยายามใช้ตะบองและแก๊สน้ำตา สลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงกว่า 5,000 คน ซึ่งมีหินเป็นอาวุธล้มเหลว

+++มุขมนตรีรัฐทมิฬนาฑู ออกคำสั่งให้สืบสวนเหตุกราดยิงใส่ผู้ชุมนุม แต่ขณะเดียวกันก็ปกป้องการกระทำของตำรวจ โดยบอกว่า ตำรวจได้ดำเนินการภายใต้กรณีแวดล้อมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพื่อปกป้องชีวิตสาธารณชน ในขณะที่ผู้ประท้วงเลือกใช้วิธีรุนแรงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตำรวจก็จำเป็นต้องควบคุมสถานการณ์ความรุนแรง



+++โรงงานแห่งนี้ หยุดปฏิบัติการช่วงสั้นๆ หลังเกิดปัญหาก๊าซรั่วในเดือนมีนาคม 2013 ทำให้คนงานและประชาชนหลายร้อยคนหายใจติดขัด อาเจียนและติดเชื้อในลำคอ ต่อมา ศาลแห่งหนึ่งในอินเดีย อนุญาตให้โรงงานดังกล่าวกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ



+++นายโมฮัมหมัด กาซิม อาซาด โฆษกตำรวจจังหวัดกันดาฮาร์ทางตอนใต้ของอัฟกานิสถาน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอัฟกานิสถาน ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ หลังรับแจ้งคนร้ายซุกระเบิดไว้ในรถมินิแวนจอดอยู่บริเวณสถานีรถโดยสารในจังหวัดกันดาฮาร์ แล้วเกิดระเบิดขึ้น มีผู้เสียชีวิต 16 ศพและบาดเจ็บ 38 คน ตำรวจจังหวัดกันดาฮาร์ ยืนยันว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงรวมอยู่ด้วย 4 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีเด็ก 5 คนและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง 10 คน เชื่อว่า คนร้ายวางแผนเตรียมก่อเหตุรุนแรงช่วงสิ้นสุดการถือศีลอด ซึ่งจะมีประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของและมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทำหน้าที่ตรวจตราดูแลด้านความปลอดภัย ทั้งนี้ ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศอ้างความรับผิดชอบ



+++อากาศที่ร้อนกว่าทุกปีในปากีสถาน มีอุณหภูมิสูงถึง 44 องศาเซลเซียส ทำให้มีคนเสียชีวิตแล้ว 65 ศพในเมืองการาจี อีกทั้งไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ช่วงเทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฏอนของชาวมุสลิมจะงดเว้นการรับประทานอาหารและน้ำในช่วงกลางวัน



+++นอกจากนั้น คลื่นความร้อนยังแผ่ปกคลุมพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือของอินเดีย เพื่อนบ้าน กรมอุตุนิยมวิทยาของปากีสถาน คาดว่า อากาศจะยังคงร้อนต่อไปอีกหลายวันจนกว่าฝนจากลมมรสุมจะเริ่มพัดเข้ามาสู่พื้นที่ภาคใต้ของอินเดียในช่วงต้นเดือนหน้า ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นทางเหนือสู่ปากีสถาน ซึ่งช่วงนั้นก็จะตรงกับช่วงสิ้นสุดของเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมในวันที่ 14 มิ.ย.



+++หลายพื้นที่ในมณฑลเสฉวนและเทศบาลนครฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ถูกพายุฝนฟ้าคะนองถล่มตั้งแต่วันจันทร์ ทำให้บางพื้นที่อุณหภูมิลดลงกะทันหันและน้ำท่วม เมืองหนานชงในมณฑลเสฉวนมีฝนตกหนักตั้งแต่เวลา 17.00-21.00 น.วันจันทร์ตามเวลาจีน เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง หลายพื้นที่มีน้ำท่วม ทำให้การจราจรมีปัญหา ทางการต้องอพยพประชาชนกว่าร้อยคน จนกระทั่งพายุเริ่มสงบลงจึงเริ่มทำความสะอาด ขณะเดียวกันฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดดินถล่มระหว่างสถานีรถไฟ 2 แห่งในเส้นทางเฉิงตู-คุนหมิง ส่งผลให้รถไฟล่าช้า งด หรือเปลี่ยนเส้นทางถึง 18 เที่ยว 



CR:www.scmp.com



 

ข่าวทั้งหมด

X