ตั้ง3ข้อหาแกนนำกลุ่มอยากเลือกตั้ง/นายกฯขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจราจร/ก.พลังงานให้แจ้งราคาน้ำมันล่วงหน้า

สรุปข่าว 19.35 น.

+++หลังเจ้าหน้าหน้าที่เข้าควบคุมตัว14แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ที่แยกมัฆวานฯ และม.ธรรมศาสตร์ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวแกนนำได้แล้วรวม 14 คน และแจ้งเบื้องต้น 3 ข้อหา คือ ยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังปะทุษร้าย หรืออย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ห้ามชุมนุมตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ตลอดคืนนี้จะมีการบันทึกประวัติ และสอบปากคำแกนนำทั้งหมด โดยยังไม่มีการยืนยันว่าจะสามารถปล่อยตัวแกนนำชั่วคราวหลังจากสอบสวนเสร็จได้หรือไม่ ส่วนสถานการณ์การชุมนุมทุกจุดยุติและเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ภายหลังแกนนำคนสำคัญประกาศมอบตัวและยุติการจัดกิจกรรม ว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานในวันนี้ พร้อมทั้งชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ใช้ความอดทนและบังคับใช้กฎหมายอย่างรอบคอบ ทำให้สถานการณ์เป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่บานปลาย

+++ฝากขอโทษประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาจราจร ในช่วงที่มีการเคลื่อนขบวนของผู้ชุมนุม และอาจเกิดความไม่สบายใจที่เห็นภาพเหตุการณ์ในวันนี้ จึงอยากให้ผู้ที่ยังชุมนุมอยู่คำนึงถึงส่วนรวม แยกย้ายกันกลับบ้าน เพื่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง โดยรัฐบาลและ คสช. ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และย้ำว่ากฎหมายจะต้องเป็นกฎหมาย ไม่ถูกละเมิด ไม่ทำให้ประเทศเสียหาย หรือประชาชนได้รับผลกระทบ นักท่องเที่ยวและนักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ

+++ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวขอบคุณมิตรประเทศที่เข้าใจกฎหมายและการทำหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเชื่อมั่นว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ทุกประเทศก็คงต้องบังคับใช้กฎหมายและดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาดเช่นเดียวกัน.

+++พ.อ.หญิงทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ 23 พ.ค.ซึ่งเป็นวันต้นไม้แห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)พร้อมคณะ จะลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี เพื่อไปเป็นประธานในโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดินปีพ.ศ. 2561 ที่ศูนย์ศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้ม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดราชบุรี  โดยนายกฯต้องการให้ทุกหน่วยงาน ร่วมกันปลูกต้นรวงผึ้งซึ่งเป็นต้นไม้ประจำรัชกาลที่ 10 และต้นไม้ประจำจังหวัด รวมถึงต้นไม้ที่มีความสวยงาม เช่น ชมพูพันธุ์ทิพย์ อีกทั้งนายกฯ ต้องการให้ร่วมกันปลูกต้นไม้ให้มีสีสันของดอกไม้ต่างๆ ให้เป็นสีเดียวกันบนถนนทั้งสาย แต่ไม่ใช่ปลูกผสมกัน อย่างเช่น สีแดงและสีเหลืองอยู่ร่วมกัน

+++7 กระทรวง แจงแผนผลักดันโครงการไทยนิยม  ตามคำสั่งนายกฯ พร้อมส่งมอบเงินลงพื้นที่ 100,000 ล้านบาทออกสู่ระบบ มิ.ย.นี้ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)  ได้เห็นชอบหลายกระทรวง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงการคลัง,กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , กระทรวงพลังงาน, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึง สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติร่วมกันเดินหน้าผลักดันโครงการไทยนิยมยั่งยืน ผ่านการใช้งบกลางปีวงเงิน 100,000 ล้านบาทภายหลังจาก พ.ร.บ.งบกลางปี 2561 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานจะต้องใช้เงินอัดฉีดเงินผ่านทุกโครงการของทุกหน่วยงานให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิ.ย.นี้ด้วย

+++นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แผนโครงการไทยนิยมของกระทรวงการคลัง จะทำผ่านโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเฟส 2  นอกจากนี้ยังจ่ายเบี้ยฝึกอบรมอาชีพต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยยกระดับกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี ให้พ้นเส้นความยากจนสัดส่วนร้อยละ 20-50  ของกลุ่มผู้ลงทะเบียน หลังจากนี้จะติดตามวัดผลผ่าน KPI เพื่อวัดผลความสำเร็จของกลุ่มเป้าหมายหลังฝึกอบรมต่อไป

+++ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกล่าวถึงการแก้ปัญหาราคาน้ำมันดีเซลที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า กระทรวงเตรียมประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เร่งด่วนภายในสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาผลกระทบจากวิกฤติราคาน้ำมันด้วยการดูแลเสถียรภาพราคาดีเซลไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพของประชาชนโดยตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร เพื่อที่ภาคขนส่งทั้งรถบรรทุก รถโดยสารธารณะและเรือโดยสาร ไม่ต้องปรับขึ้นค่าขนส่งและบริการเพิ่มขึ้น และเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันในช่วงขาขึ้น ได้มอบหมายให้สำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) สามารถแจ้งราคาขายปลีกน้ำมันได้ล่วงหน้าเช่นเดียวกับผู้ค้าน้ำมัน

+++ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 26 เม.ย. สนพ.ได้สั่งให้ผู้ค้าน้ำมันงดประกาศการปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดให้สาธารณชนทราบล่วงหน้า โดยระบุว่อาจเข้าข่ายการกระทำผิดที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของนโยบายการส่งเสริมการแข่งขัน รวมทั้งอาจไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับตัวลดลง 7.60 จุดที่ระดับ 1,760.71 จุดมูลค่าการซื้อขาย 57,462.67 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง โดยมีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานและหุ้นในกลุ่มธนาคาร

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากนิกเกอิพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการก่อนหน้านี้ ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 42.03 จุด ที่ 22,960.34 จุด

+++สำนักงานสอบสวนการบินซาอุดีอาระเบียแถลงวันนี้ว่า เครื่องบินแอร์บัส A330 นำผู้โดยสารและลูกเรือรวม 151 คน เดินทางจากเมืองเมดินา ทางตะวันตกของประเทศจะไปกรุงธากาของบังกลาเทศ แต่ต้องลงจอดฉุกเฉินที่เมืองเจดดาห์ ห่างลงไปทางใต้ เนื่องจากระบบไฮโดรลิกขัดข้อง ผู้โดยสารได้รับการอพยพออกจากเครื่องบินด้วยทางลาดฉุกเฉิน ผู้โดยสาร 52 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และมีผู้โดยสารสตรีคนหนึ่งกระดูกแตก ขณะนี้กำลังรับการรักษาอยู่ ทางสำนักงานได้เปิดการสอบสวนหาสาเหตุแล้ว  สื่อซาอุดีอาระเบียรายงานว่า เครื่องบินบินวนเหนือเมืองเจดดาห์อยู่หลายชั่วโมง ล้อลงจอดไม่กางออก นักบินจึงต้องลงจอดฉุกเฉิน