หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ระบุการใช้มาตรา 44 ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจทีวีดิจิตอล ในการครบกำหนดการจ่ายค่าสัมปทาน คลื่นความถี่ทีวีดิจิทัล ในวันพรุ่งนี้ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดูแลอยู่ ว่าจะสามารถดำเนินการออกมาในรูปแบบใดได้บ้าง เพื่อให้สามารถบรรเทาด้านเศรษฐกิจไป พร้อมกับขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกัน หลายอย่าง ที่จะต้องแก้ไขให้เป็นเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พร้อมกับช่วยเหลือผู้ประกอบการ เนื่องจากที่ผ่านมาหลายอย่างมีการนำมาตรา 44 ไปใช้ ซึ่งต้องพิจารณาให้เกิดความเหมาะสม ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ทุกอย่างจะดีขึ้น
ส่วนกรณีที่สมาพันธ์ลูกจ้างรัฐแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ที่ให้ลูกจ้างส่วนราชการนั้นได้รับค่าจ้างต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำ ได้ให้กระทรวงสาธารณสุขเข้าไปดูแล ทั้งโครงการการบรรจุหรือจ้างงานแทนผู้เกษียณอายุราชการ การปรับลูกจ้างพนักงงานที่ถือได้ว่าเป็นการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งสิ้น โดยต้องกลับไปทบทวนถึงระเบียบต่างๆ ด้วย
ส่วนกรณีการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ที่มีการจัดซื้ออุปกรณ์ที่มีราคาแพง ทั้งไมโครโฟน ทีวี นาฬิกา ซึ่งสังคมมองว่ามีความไม่เหมาะสม ราคาสูงเกินความจำเป็น นายกรัฐมนตรีระบุว่า อย่าให้ความสำคัญกับเรื่อง ไมโครโฟนหรือนาฬิกา เพียงอย่างเดียว เพราะเป็นเรื่องที่ปฏิบัติตามขั้นตอน ยังไม่มีใครผิดใครถูก ทุกอย่างทำตามหลักการที่มีการอนุมัติงบประมาณในรัฐบาลยุคก่อน ทั้งการออกแบบที่มีความสวยหรู ที่มุ่งหวังว่าจะเป็นรัฐจสภาที่ทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้/ จึงอาจใช้สินค้าที่ราคาแพงขึ้นหรือใช้ของดี /ซึ่งต้องมาดูว่ามีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไร
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะนี้ก็ต้องดูเรื่องของการประหยัดงบประมาณด้วย จึงขออย่าพูดจาให้ร้ายกันไปมา เพราะคนทำงานจะหมดกำลังใจ ขอให้ไปดูที่การออกแบบเพราะทุกวันนี้ยังแก้ไขอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นการหาวิธีการที่เหมาะสมจึงถือเป็นวิธีการแก้ปัญหาของตนเอง