แกนนำระดับสั่งการ ก่อเหตุระเบิดที่สงขลา/ทำเนียบ พร้อมรับการชุมนุมพรุ่งนี้/ศาลสั่ง สตช.ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ครอบครัว 2 นรต.

+++เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็ม 2 จุดใน 2 อำเภอของ จ.สงขลา ทั้งตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน ภายในปั้มน้ำมันบ้านสวรรค์ในพื้นที่ ต.สะกอม อ.เทพา และตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสินหน้า อบต.บ้านโหนด ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุวางระเบิดทั้ง 2 จุดแล้ว โดยเป็นกลุ่มของแกนนำระดับสั่งการ ค่าหัว 3 แสนบาท ที่รับผิดชอบก่อเหตุในพื้นที่ 4 อำเภอชายแดนสงขลา ทั้ง อ.จะนะ อ.เทพา อ.นาทวี และอ.สะบ้าย้อย ส่วนผู้ที่ลงมือนำระเบิดไปวางเจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการหาเบาะแสจากกล้องวงจรปิด

+++การดูแลความเรียบร้อยที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าที่พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับกอง 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 (ผกก.4 บก.ส.3 ) เปิดเผยว่า ตำรวจสันติบาล ทั้งจากกองกำกับการ 3 และ 4 ซึ่งมีกำลังเจ้าหน้าที่ประจำการกว่า 100 นาย ประสานงานกับกองสถานที่และรักษาความปลอดภัย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ พร้อมกับมีกำลังเสริมจากกองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) คอยสนับสนุน อีกทั้งยังมีตำรวจควบคุมฝูงชนรวม 8 กองร้อย แบ่งเป็น 4 กองร้อยดูแลรอบนอกทำเนียบรัฐบาล 3 กองร้อยดูแลพื้นที่ตั้งแต่บริเวณถนนราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ และถนนพิษณุโลก สะพานชมัยมรุเชฐ สะพานอรทัย ไปจนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม และอีก 1 กองร้อยประจำการดูแลในทำเนียบรัฐบาล  โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำการทุกอาคารภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างหนาแน่น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าประจำจุดตั้งในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป 

+++ว่าที่พ.ต.อ.กัมปนาท ได้ประสานงานไปที่สน.ดุสิต และสน.นางเลิ้ง อำนวยความสะดวกประชาชนด้านการจราจร ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่น่ากังวล เจ้าหน้าที่ได้นำรั้วเหล็กมาวางกั้นชิดขอบทางเท้าโดยรอบทำเนียบรัฐบาลไว้ทั้งหมดแล้ว

+++หลังการประชุมคณะทำงานพิจารณาการปรับลดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศในรัฐสภาใหม่เป็นการภายใน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการวุฒิสภา ฝ่ายงบประมาณ และที่ปรึกษาโครงการ ได้เข้าร่วมหารือเพื่อปรับลดงบประมาณในการจัดซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศและสาธารณูปโภค ให้เหลือวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท จาก 8,000กว่าล้านบาท แบ่งเป็นงบไอที 4,000 ล้านบาท และสาธารณูปโภค 1,000 กว่าล้านบาท จะต้องชี้แจงให้ได้ว่าอีก 1,000ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นมาจากงบเดิมเมื่อปี 2556 มีความแตกต่างอย่างไร แม้ว่าจะมีการปรับลดงบประมาณ แต่จะต้องพิจารณาว่าสภาฯ ยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ แม้ว่าระบบจะไม่ทันสมัยที่สุดก็ตาม และในวันที่  23 พ.ค. เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จะนำตัวเลขงบประมาณที่ได้ปรับลดแล้ว ไปหารือกับสำนักงบประมาณเพื่อให้ได้ข้อสรุป และส่งให้คณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาต่อไป  

+++นายพรเพชร กล่าวถึง นาฬิการะบบดิจิทัลที่สามารถลิงค์สัญญาณดาวเทียมได้ว่า ไม่มีความจำเป็นกับพื้นที่อื่นในรัฐสภา นอกจากห้องประชุมใหญ่ทั้ง 2 ห้องที่ต้องมีการควบคุมเวลาการอภิปรายของสมาชิก ดังนั้นจะใช้แบบอนาล็อกแทน

+++ส่วนการทำงานของนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ยังมีประสิทธิภาพและทำงานได้ดี ซื่อสัตย์สุจริต แต่ยอมรับว่าอาจมีปัญหาเกิดขึ้นบ้างเป็นเรื่องปกติที่จะต้องช่วยกันแก้จนกว่าจะแล้วเสร็จ สำหรับกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ปลดนายสรศักดิ์ นายพรเพชรปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

+++ด้านนายสรศักดิ์ ชี้แจงว่า จะยกเลิกระบบเสียบบัตร และระบบไมโครโฟนที่ใช้แสดงตน และอภิปรายในที่ประชุมทั้งหมด กลับมาใช้ระบบยกมือขานชื่อรายบุคคล แทนการเสียบบัตรลงคะแนน แบบดั้งเดิม ซึ่งทำให้ต้องมีการแก้ไขข้อบังคับการประชุมเพื่อรองรับ และแก้ปัญหาการเสียบบัตรแทนกัน พร้อมยกเลิกนาฬิการะบบดาวเทียมทั้งหมดรวมทั้ง 2 เรือนตัวใหญ่ในห้องประชุม ส.ส. และส.ว. ราคาตัวละ กว่า 70,000 บาท กลับมาใช้ระบบใส่ถ่าน

+++ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ครอบครัวนรต.ชยากร พุทธชัยยงค์ และครอบครัวนรต.ณัฐวุฒิ ติรสุวรรณสุข นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 2 กรณีฝึกโดดร่มที่ค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี แต่ร่มไม่กาง เป็นเหตุให้ทั้งสองคนเสียชีวิต เมื่อปี 2557  ศาลระบุว่า จากข้อเท็จจริงและข้อมูลทางเทคนิคปรากฏว่าชุดสลิงที่บริษัทอุตสาหกรรมการบิน จำกัด นำมาติดตั้งกับเครื่องบินที่ใช้ในการฝึกโดดร่มดังกล่าวในระดับความสูง 1,250 ฟุต มีร่องรอยการกลึงและการเจียร์เพื่อปรับแต่งผิวปลอกรัดของชุดปรับแรงตึงสลิงทั้งด้านซ้ายและขวา และขอเกี่ยวท้ายเครื่องบินซ้ายและขวาจำนวน 4 ชิ้นด้วยเครื่องมือที่ไม่เหมาะสม ผิดไปจากมาตรฐานที่ควรเป็น ด้านเจ้าหน้าที่ของสตช.เองก็ไม่ได้ติดตามและตรวจสอบความสมบูรณ์ของการซ่อมให้เรียบร้อยก่อนนำไปใช้งานราชการ จึงเป็นการละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ โดยให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับนายสาธร บิดาของนรต.ชยากร เป็นเงินค่าปลงศพ 277,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะจำนวน 2,088,000 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,365,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไปนับแต่วันที่ 26 มี.ค. 2558 ที่มีการฟ้องคดีจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา

+++ศาลระบุต่อว่า ให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับนายจตุรงค์ บิดาของนรต.ณัฐวุฒิ เป็นเงินค่าปลงศพ 279,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะจำนวน 2,088,000 รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,367,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไปนับแต่วันที่ 26 มี.ค. 2558 ที่มีการฟ้องคดีจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้ชำระเสร็จภายใน 60 วันนับแต่วันที่มีคำพิพากษา รวมถึงให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่นางบุศรา รัตนนารีกุล มารดาของนรต.ณัฐวุฒิ ด้วย

+++ศาลจังหวัดทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นัดตรวจพยานหลักฐานคดีที่อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเปรมชัย กรรณสูต, นายยงค์ โดดเครือ, นายธานี ทุมมาศ และนางนที เรียมแสน จำเลย ใน 6 ข้อหา ประกอบด้วย 1. ร่วมกันพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า 3. ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต 4. ร่วมกันมีไว้ในการครอบครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง 5. ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นซึ่งซากสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำความผิดกฎหมาย และ 6. ร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติ  ทั้งนี้ฝ่ายโจทก์ และ นายเปรมชัย พร้อมพวกในฐานะจำเลย ได้เดินทางมาตามนัดของศาล ศาลได้ใช้เวลาในการพิจารณา 3 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น

+++นายพนมฤทธิ์ หอมนิจสกุล อัยการจังหวัดทองผาภูมิ เปิดเผยว่า ศาลจังหวัดทองผาภูมิ ได้นัดมาสืบพยานหลักฐาน สอบคำให้การ และตรวจพยานเอกสาร แต่เนื่องจากว่า ทนายความของจำเลยที่ 2 และ 4 ไม่ได้เดินทางมาด้วยเนื่องจากติดว่าความคดีอื่น ดังนั้นจำเลยจึงขอเลื่อนเวลาออกไป ศาลได้นัดตรวจพยานออกไปเป็นวันที่ 6 มิ.ย. 2561 เวลา 09.00 น.  นายวิฑูรย์ พรายแย้ม ทนายความของนายเปรมชัย เปิดเผยว่า วันดังกล่าว ศาล นัดตรวจพยานหลักฐาน ขณะที่ นายเปรมชัย ย้ำว่า ยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดตลาดบ่าย ปรับขึ้น 14.14 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,768.31 จุด มูลค่าการซื้อขาย 47,171.15 ล้านบาท นายวีระวัฒน์  วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมีปัจจัยหนุนจากการที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 1/2561 ขยายตัวร้อยละ 4.8 ออกมาดีกว่าตลาดคาดมาก ทำให้มีการปรับประมาณการจีดีพี ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกกัน

+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ปิดวันนี้ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนก.พ. เนื่องจากความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ได้คลี่คลายแล้ว ได้กระตุ้นความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากจีนให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการซื้อสินค้าและบริการจากสหรัฐฯ ดัชนีนิกเกอิ ปิดเพิ่มขึ้น 72.01 จุด ปิดที่ 23,002.37 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบสามเดือนครึ่ง

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 186.44 จุด ปิดที่ 31,234.35 จุด

+++ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดีมุน แจอินของเกาหลีใต้ เดินทางจากเกาหลีใต้มุ่งหน้าไปที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.สหรัฐฯในวันนี้ เพื่อพบกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้ ช่วยประสานให้การประชุมสุดยอดระหว่างนายทรัมป์กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เกิดขึ้นตามกำหนดเวลาที่วางไว้คือวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ที่ประเทศสิงค์โปร์ แต่ในระยะหลังๆมานี้เริ่มมีความไม่แน่นอนว่าการประชุมสุดยอดดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไปหรือไม่ โดยเฉพาะหนึ่งสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความไม่แน่นอน คือ การที่เกาหลีเหนือ ยกเลิกแผนการเชิญคณะผู้สังเกตการณ์ระหว่างประเทศและนักข่าวต่างชาติไปร่วมสังเกตการณ์รื้อทำลายฐานทดสอบนิวเคลียร์ปุง-กเยรี ซึ่งจะดำเนินการในสัปดาห์นี้

+++หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ของสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯว่านายทรัมป์ กำชับให้คนใกล้ชิดและประเทศพันธมิตรของสหรัฐฯ ประเมินสถานการณ์ดูว่านายคิม ยินดีจะล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์จริงๆหรือไม่ พร้อมทั้งขอให้ช่วยพิจารณาว่าเขาควรจะยอมเสี่ยงร่วมตามกำหนดเดิมหรือไม่

+++นักวิเคราะห์หลายคน รวมถึงนายเจฟฟรีย์ ลูอิส ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมอาวุธจากสถาบันมิดเดิลเบอร์รี อินสติทิวท์ ออฟ อินเตอร์เนชั่น สตัดดี ของสหรัฐฯ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อเรียกร้องจากทั้งสองฝ่ายดูเหมือนจะไม่สอดคล้องตรงกันเท่าที่ควร แม้ว่าเกาหลีเหนือยินดีจะพูดคุยเรื่องปลดอาวุธนิวเคลียร์ แต่เกาหลีเหนือไม่เคยพูดว่าจะทำข้อตกลงเช่นนั้นในการประชุมกับนายทรัมป์ที่สิงคโปร์ ที่สำคัญคือเกาหลีเหนือมักจะพูดในภาพกว้างๆในประเด็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลี หมายความว่าสหรัฐฯก็จะต้องไม่ส่งเรือรบที่สามารถโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เข้าไปที่เกาหลีใต้เช่นกัน ไม่ใช่เสนอให้เกาหลีเหนือปลดอาวุธนิวเคลียร์เพียงฝ่ายเดียว

+++ด้านศาสตราจารย์โรเบิร์ต โคลลี ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติปูซานของเกาหลีใต้ แสดงความกังวลกรณีนายทรัมป์ เร่งรัดที่จะให้บรรลุผลสำเร็จในการเจรจากับเกาหลีเหนือครั้งนี้เพียงครั้งเดียวโดยส่วนตัวเขาอยากให้เลื่อนการประชุมสุดยอดครั้งนี้ออกไปก่อนอีก 6-8 เดือน เพื่อให้คณะทำงานจากทั้งสองฝ่ายเจรจากันในประเด็นต่างๆให้ได้ข้อสรุปอย่างชัดเจน

แฟ้มภาพ