+++นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยผลการหารือกับดาโต๊ะ มูฮัมหมัด ทาจูดีน อับดุลวาฮับ เลขาธิการสภาความมั่นคงมาลเซีย ที่มาเลเซีย ว่า ได้พูดคุยถึงความร่วมมือในการสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนใต้ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบหมายให้แจ้งฝ่ายมาเลเซียทราบเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางการดำเนินการเรื่องดังกล่าว ซึ่งฝ่ายมาเลเซียได้รับทราบนโยบายของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ด้วยสันติวิธี และสร้างความต่อเนื่องของกระบวนการพูดคุย
ฝ่ายไทยยังคงให้มาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวก แต่ยังไม่ได้แต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุย เพื่อป้องกันความสับสน จึงกำหนดให้มีช่องทางการติดต่อระหว่างรัฐบาลทั้งสองประเทศ ผ่านสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติทั้งสองฝ่ายเพียงช่องทางเดียวจนกว่ากระบวนการพูดคุยจะเริ่มต้น ซึ่งมาเลเซียเห็นด้วยและทั้งสองฝ่ายจะเสนอรายละเอียดการหารือให้ผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศทราบ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการพบปะหารือของนายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศที่จะมีขึ้นในอนาคต
+++เหตุคนร้ายยิงถล่มและลอบวางระเบิดสำนักงานเทศบาลตำบลมะกรูด หมู่ 3 บ้านแลแบ ต.มะกรูด ที่จ.ปัตตานี มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย รวมทั้งนายประสิทธิ์ สินธุอุทัย ปลัดเทศบาลตำบลมะกรูด อายุ 46 ปี ด้านนายขวัญชาติ วงค์ศุภรานันท์ รองผู้ว่าฯ ปัตตานี เดินทางไปเยี่ยมอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บที่พักรักษาตัวที่ รพ.โคกโพธิ์ ประกอบด้วย นางจริยา สาคร, นางวิมลศรี จันทร์เพชร, นายธาริน ชุมพงศ์ และนายสุชาติ ไชยอ่อนแก้ว ต่างถูกสะเก็ดระเบิดตามร่างกาย ทั้งหมดพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วน นายอิสมาแอ มะลีเละ ถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี เนื่องจากมีบาดแผลฉกรรจ์ ทางรองผู้ว่าฯได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมจะเยียวยาเต็มที่ทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมหารือกับตำรวจและประชาชนขอความร่วมมือประชาชนให้แจ้งเบาะแส หากมีข้อมูลเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อเจ้าหน้าที่ จะได้ดำเนินการขยายผลติดตามจับกุมให้ได้โดยเร็วที่สุด
+++มุมมองภาคเอกชน เรื่องการแถลงนโยบาย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า นโยบายระยะเร่งด่วน ที่จะมีการเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐ เร่งพิจารณาโครงการลงทุนต่างๆ รวมถึงการดูแลราคาสินค้าเกษตรให้เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดสอดคล้องกับที่ภาคเอกชนเคยเสนอต่อภาครัฐมาก่อนหน้านี้ โดยนโยบายเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมถือเป็นนโยบายที่ดีที่จะเร่งอนุมัติโครงการที่ขอรับส่งเสริมการลงทุนมายังสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เอกชนไม่ห่วงประเด็นจะทำไม่ได้ตามแผน แต่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะผลักดันนโยบายต่างๆ ง่ายกว่าช่วงการเมืองปกติ เพราะมี คสช.ดูแลความเรียบร้อยให้
+++นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อประเมินจากนโยบายภาพใหญ่ทั้ง 11 ด้านของรัฐบาล เห็นว่าด้านที่ต้องเพิ่มคือ ด้านที่ 7 ส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในอาเซียน โดยควรเปลี่ยนให้เป็นการส่งเสริมบทบาทและการใช้โอกาสในข้อตกลงระหว่างประเทศ เพราะหากมองเฉพาะอาเซียนแคบเกินไป เนื่องจากประเทศไทยได้ไปทำข้อตกลงทั้งที่เป็นเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับหลายประเทศ และยังมีกรอบกับองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) โดยควรนำกรอบทั้งหมดมาพิจารณาและวางยุทธศาสตร์เพื่อให้ประเทศได้ประโยชน์สูงสุด นายพรศิลป์กล่าวว่า อีกด้านหนึ่งที่ควรเพิ่มรายละเอียดคือ การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ ต้องลงในรายละเอียดและทำเป็นแผนระยะยาว 10-20 ปี โดยต้องมองให้ออกว่าในอนาคตและอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เกษตร จะเป็นอย่างไร จากนั้นวางเป็นแผนระยะยาวแล้วประกาศออกมาเป็นแนวทาง ที่ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาต้องไม่แก้ไข และต้องเดินตามนี้
+++ นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 15 ก.ย. จะมีการประชุมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อมอบนโยบายการทำงานให้สอดคล้องกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องโดยตรง คือ การปรับปรุงวิธีการจัดเก็บภาษี การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่เกิดขึ้นในรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึง มาตรการที่จะดูแลเศรษฐกิจในระยะต่างๆ
+++ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จากปีนี้จนถึงครึ่งแรกของปี 2558 จากนั้นจะกระตุ้นผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนระยะ 6 เดือนหลังของปี 2558 มองว่า เศรษฐกิจจะเดินไปได้ด้วยการลงทุนภาครัฐ แต่ระยะนับจากนี้ จนถึง 6 เดือนแรกของปี 2558 นั้น ภาคการส่งออกที่มีปัญหาจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ แม้ขณะนี้ สัญญาณด้านการบริโภคจะเริ่มดีขึ้นบ้างก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่จะสามารถทำได้ คือ การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น โดยไม่กระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ
+++มาตรการระยะสั้นจะทำผ่านการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณในส่วนงบประมาณค้างท่อที่รอการเบิกจ่ายทั้งในปี 2557 ซึ่งสำนักงบประมาณ รายงานว่า มีงบค้างท่อที่รอการเบิกจ่ายรวมแล้วประมาณ 3.04 แสนล้านบาทถ้าเร่งรัดให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามที่คาด หวังที่จะให้เศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัวได้ร้อยละ 2 ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมาย
+++กระทรวงพาณิชย์ เปิดให้เอกชนยื่นประมูลซื้อข้าวสารจากสต๊อกรัฐบาล 1.39 แสนตัน คาดว่า จะมีเอกชนเข้ามายื่นซองเสนอซื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นการเปิดประมูลข้าวหอมมะลิและข้าวเหนียว โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิเอกชนมีความต้องการมากเพราะข้าวหอมมะลิฤดูกาลใหม่ยังไม่ออกสู่ตลาด
+++หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข พบผู้เข้าเกณฑ์ติดเชื้ออีโบลารายที่2 เป็นชายชาวฮอลแลนด์ อายุ52ปี เดินทางมาจากประเทศไนจีเรียที่เป็นประเทศที่เชื้อไวรัสอีโบลากำลังระบาด เมื่อวันที่28ส.ค. และถึงประเทศไทยวันที่10ก.ย.และมีไข้ขึ้นสูง นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า พักรักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค มีอาการเข้าข่ายผู้ติดเชื้อ และแพทย์ได้เจาะเลือดเพื่อส่งตรวจหาเชื้อไวรัสอีโบลา ที่กรมวิทยาศาสคร์การแพทย์ และคณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จะทราบผลตรวจเลือดในวันนี้ กระทรวงจะติดตามอาการของผู้เข้าข่ายสัมผัสโรคทั้งหมด21คน จนครบ21วันด้วย
+++ผลการประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เรื่องจริยธรรมทางการแพทย์ กรณีอุ้มบุญ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่า หลังจากได้รับข้อมูลจากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ มีการส่งรายชื่อแพทย์ 6 คนให้พิจารณา ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นจากเอกสารที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้นของแพทย์ 3 คน เป็นเจ้าของคลินิก 2 คน และแพทย์ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ 1 คน พบมีมูลความผิด เตรียมส่งเรื่องให้คณะกรรมการสอบสวนชุดพิเศษ ด้านจริยธรรม ที่มี นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เป็นประธาน คาดว่า ภายใน 1-2 เดือน ทราบผล เบื้องต้นสำหรับมูลความผิดที่ชัดเจนเกี่ยวกับแพทย์ทั้ง 3 คน ที่พิจารณาในครั้งนี้ คือการไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของแพทยสภา ในการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ กับหญิงที่ไม่ใช่ญาติ ส่วนการพิจารณาความผิดแพทย์อีก 3 คนที่เหลือจะมีในการประชุมครั้งหน้า
+++นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า วันนี้ มีการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งมี พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ( คสช.) เป็นประธาน เพื่อเก็บเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของดีเซลเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเก็บที่ 1.00 บาท และรัฐบาลยังคงมาตรการดูแลดีเซลไม่เกิน 30 บาท/ลิตร
+++สำนักสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ระบุว่า นายประวิทย์ มาลีนนท์ ตัวแทน บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) จะยื่นหนังสือกับ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ช่วง 13.00 น.เพื่อขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์( กสท.)กรณีที่ให้ผู้ประกอบการโครงข่ายโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เคเบิลและทีวีดาวเทียม) ระงับการนำช่อง 3 อนาล็อกมาออกอากาศในโครงข่ายของตัวเอง หลังจากได้รับหนังสือคำสั่งทางปกครองภายใน 15 วัน