อดีตนายกฯมาเลเซียไม่พอใจถูกค้นบ้าน/จีนซ้อมรบในทะเลจีนใต้/แนวโน้มเศรษฐกิจโลกถดถอยลง

ทนายความของนางรอสมาห์ มานซอร์ ภริยาของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยว่านางรอสมาห์และสามีไม่พอใจอย่างมากที่ตำรวจบุกเข้ามายึดทรัพย์สินจำนวนมากออกไปจากบ้านของเธอ ทั้งที่ชี้แจงแล้วว่าทรัพย์สินหลายอย่างเป็นของบุตรหลาน ไม่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทั้งระบุด้วยว่า เธอและสามีกำลังเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบากจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และวิจารณ์การนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนด้วยว่าชี้นำการตัดสินคดี

โดยปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่ 6 แห่ง ระหว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนเจ้าหน้าที่ยึดกระเป๋าหรูราคาแพงหลายยี่ห้อ รวม 284 ใบ และกระเป๋าเดินทางอีก 72 ใบ เต็มไปด้วยเครื่องเพชรและสิ่งของมีค่าอีกจำนวนมาก รวมถึงเงินสดซึ่งส่วนใหญ่เป็นเงินสกุลต่างประเทศ ที่อาจเชื่อมโยงกับการทุจริตกองทุนวันเอ็มดีบี และนายนาจิบมีกำหนดพบคณะกรรมาธิการต่อต้านการทุจริตของมาเลเซียหรือเอ็มเอซีซี ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ตำรวจยังอาจรื้อฟื้นการสอบสวนคดีฆาตกรรม น.ส.อัลตันตูยา ชาอาร์รีบู ชาวมองโกเลียอายุ 28 ปี เมื่อปี 2549 ตามที่ประธานาธิบดีมองโกเลียร้องขอนายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัด และมีอดีตตำรวจมาเลเซียซึ่งถูกระบุว่าเป็นมือสังหารหลบหนีไปยังออสเตรเลียเมื่อปี 2558 เสนอข้อแลกเปลี่ยนเพื่อแลกกับการอภัยโทษ โดยเขาจะเปิดเผยชื่อผู้บงการฆ่าน.ส.อัลตันดูยา ซึ่งคดีฆาตกรรมนี้ถูกระบุว่า เป็นการฆ่าปิดปาก และเกี่ยวข้องกับครอบครัวของนายนาจิบ

ที่ฝรั่งเศส ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเชื้อชาติเชเชน ที่สถานีรถไฟเมืองมาร์เซย์ เมืองท่าทางตอนใต้ของประเทศ ผลการตรวจค้นพบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่สามารถนำไปประกอบวัตถุระเบิดได้ โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยังเกิดเหตุชาวฝรั่งเศสเชื้อสายเชเชนไล่แทงผู้คนในกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายและบาดเจ็บ 4 ราย

กองทัพอากาศจีนออกแถลงการณ์เรื่องผลปฏิบัติการฝึกซ้อมของฝูงบินเครื่องบินทิ้งระเบิดหลากหลายรุ่น ในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่จีนส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าปฏิบัติการเหนือทะเลจีนใต้ และมีการติดตั้ง ระบบขีปนาวุธบนเกาะสร้างใหม่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ด้วย โดยหมู่เกาะในทะเลจีนใต้เป็นพื้นที่พิพาทกับประเทศอาเซียน ได้แก่ เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบรูไน

ทางการสหรัฐอเมริกากับจีนบรรลุข้อตกลงยุติสงครามการค้าระหว่างกันแล้ว หลังมีการหารือระหว่างนายสตีเว่น เอ็มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ กับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนที่กรุงวอชิงตัน โดยในข้อตกลงระบุว่า ทั้งสองชาติจะยุติสงครามการค้า และจะยุติการใช้มาตรการด้านภาษีเพื่อตอบโต้กัน

สหประชาชาติ เปิดเผยรายงานประเมินสถานการณ์และโอกาสทางเศรษฐกิจโลกภาคครึ่งปี (World Economic Situation and Prospect) คาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวกว่าร้อยละ 3 ในปีนี้และปีหน้า แต่ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้อัตราการเติบโตปี 2562 ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.8 โดยปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ มีทั้งมาตรการทางภาษีของสหรัฐ ประเด็นขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศ นโยบายทางการเงินที่ไร้เสถียร ภาพ และอัตราหนี้สินที่เพิ่มขึ้น

ผลกระทบหลังจากที่สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน ทำให้ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านลดลง และทำให้สถานการณ์น้ำมันดิบในตลาดโลกลดลง ทั้งนี้ อิหร่านเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 3 ในกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก แต่จากมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเมื่อปี 2555 ทำให้ปริมาณการส่งออกของอิหร่านลดลงจากราว 2,500,000 บาร์เรลต่อวันลงมาเหลือไม่ถึง 1,300,000 บาร์เรลต่อวัน โดยประเทศผู้นำเข้าหลักน้ำมันจากอิหร่าน คือ จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

โดยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย พบหารือกับ นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล แห่งเยอรมนี เพื่อยืนยันความร่วมมือเพื่อรักษาข้อตกลงอิหร่าน นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศส ยังมีกำหนดพบหารือกับประธานาธิบดีปูตินเช่นกัน

นาย คู บอนมู ประธานกลุ่มธุรกิจ แอลจี หนึ่งในเอกชนชั้นนำของประเทศเกาหลีใต้ ถึงแก่กรรมแล้วด้วยอายุ 73 ปี หลังเข้ารับการผ่าตัดสมอง และเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยนายบอนมูปฏิเสธที่จะให้แพทย์ยื้อ ชีวิตต่อ พร้อมสั่งเสียให้นายคู กวางมู บุตรบุญธรรม เข้าดำรงตำแหน่งแทน ทั้งนี้ นายกวางมู เดิมมีศักดิ์เป็นหลานชาย เนื่องจากเป็นบุตรของน้องชายนายบอนมู แต่นายบอนมูรับเป็นบุตรบุญธรรม หลังตัวเองสูญเสียลูกชายคนเดียวไปเมื่อปี 2533

....