*ทันสถานการณ์โลกเวลา06.30น.*

+++ชาวอเมริกันร่วมรำลึกครบ13 ปีเหตุการณ์ก่อวินาศกรรมกลุ่มก่อการร้ายโจมตีนครนิวยอร์กเมื่อวันที่11 ก.ย.2544 ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ให้คำมั่นว่า ประเทศจะไม่ “ก้มหัวให้กับความหวาดกลัว” พิธีที่ซึมเศร้านี้ถูกจัดขึ้นในนครนิวยอร์กและกรุงวอชิงตันในช่วงเวลากับที่ประธานาธิบดีโอบามาให้คำมั่นว่าจะ“ทำลายล้าง” กลุ่มหัวรุนแรงไอเอสในอิรักและซีเรีย ซึ่งเป็นแนวร่วมใหม่ในสงครามปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายที่เริ่มต้นมาเมื่อ13 ปีก่อน ประธานาธิบดีโอบามา,นางมิเชล สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งและรองประธานาธิบดีโจ ไบเดนร่วมพิธีด้วยการยืนสงบนิ่งในบริเวณลานสนามหญ้าด้านใต้ของทำเนียบขาว พร้อมกับเจ้าหน้าที่ประมาณ300 คนโดยมีการลดธงลงครึ่งเสาในกรุงวอชิงตัน

+++ส่วนในนครนิวยอร์ก บรรดาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตเมื่อเครื่องบินที่ถูกกลุ่มหัวรุนแรงจี้พุ่งชนอาคารแฝดเวิลด์ เทรดเซ็นเตอร์ ได้มารวมตัวกันอยู่ที่บริเวณที่เรียกว่ากราวด์ ซีโร่ เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิต จากนั้นสมาชิกในครอบครัวก็ได้เริ่มกระบวนการที่ยาวนานด้วยการอ่านชื่อของผู้เสียชีวิตเกือบ3,000 คนในการโจมตีนครนิวยอร์ก,อาคารเพนตากอน และเมืองแชงสวิลรัฐเพนซิลเวเนีย

+++หลังจากที่ นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประชุมร่วมกับบรรดาผู้นำของชาติอาหรับในซาอุดีอาระเบียเพื่อพยายามที่จะรวบรวมเสียงสนับสนุนจากพันธมิตรในการโจมตีกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ประเทศอาหรับซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐรวมทั้งซาอุดีอาระเบีย ด้วยเห็นพ้องต้องกันสนับสนุนสหรัฐในการจัดการภัยคุกคามที่เกิดจากกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส โดยข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้นหลังการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีชาติอาหรับและนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐในเมืองเจดดาห์ประเทศซาอุฯ ซึ่งในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งระบุว่าพวกเขาได้หารือเรื่องยุทธศาสตร์ในการทำลายไอเอสไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตามซึ่งรวมทั้งในอิรักและซีเรีย ชาติอาหรับให้คำมั่นด้วยว่าจะหยุดยั้งนักรบหัวรุนแรงและสกัดกั้นแหล่งเงินทุนที่ให้การสนับสนุนกลุ่มหัวรุนแรงและมีความเป็นไปได้ว่าจะเข้าร่วมในการใช้ปฏิบัติการทางทหาร

+++ด้านรัสเซีย เตือนว่า ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของสหรัฐต่อกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง โฆษกของกระทรวงต่างประเทศรัสเซียระบุว่า การปฏิบัติการใด ๆโดยไม่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติหรือยูเอ็น จะถือเป็นการรุกราน เป็นการแสดงปฏิกิริยาอย่างแข็งกร้าวจากรัสเซียซึ่งเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีบาชาร์อัล-อัสซาดผู้นำซีเรีย การที่ประธานาธิบดีสหรัฐ พูดถึงความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารโจมตีฐานที่มั่นกลุ่มไอเอสในซีเรีย โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐบาลที่ถูกต้องตามกฎหมายซึ่งในขั้นตอนนี้หากไม่มีการตัดสินใจของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น จะเท่ากับเป็นการรุกรานละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง

+++โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย ย้ำเตือนว่า สหรัฐต้องได้รับความร่วมมือกับรัฐบาลซีเรียก่อนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในดินแดนของซีเรีย

+++ นายเฮอร์มาน แวน รอมปุย ประธานสภาแห่งยุโรปกล่าวว่าการคว่ำบาตรรัสเซียรอบใหม่ของกลุ่มสหาภาพยุโรปหรืออียูจะเริ่มมีผลบังคับในวันพรุ่งนี้ แต่อาจจะพิจารณายกเลิกมาตรการดังกล่าวหลังการตรวจสอบสถานการณ์หยุดยิงในพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนในช่วงปลายเดือนนี้

+++กลุ่มก่อการร้ายอัล-นุสรา กลุ่มก่อการร้ายเครือข่ายอัลกออิดะห์ในซีเรีย ปล่อยตัวทหารรักษาสันติภาพชาวฟิจิ 45 นายของยูเอ็น บริเวณจุดผ่านแดนคูเนตราระหว่างซีเรียและอิสราเอล โดยทั้งหมดถูกจับเป็นตัวประกันจากที่ราบสูงโกลัน พื้นที่พิพาทระหว่างซีเรียและอิสราเอล เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ทุกคนมีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์และได้รับการประเมินทางการแพทย์ทันทีที่ได้รับการปล่อยตัว

+++นายอาลี อัล-อัลอุมัยร์  รัฐมนตรีน้ำมันคูเวต เปิดเผยภายหลังการประชุมรัฐมนตรีน้ำมันสภาความร่วมมืออ่าวเปอร์เชียหรือจีซีซี เชื่อว่าราคาน้ำมันยังไม่ได้ดิ่งลงมาก ถึงขั้นที่กลุ่มโอเปก จะต้องเรียกประชุมฉุกเฉิน และยังเชื่อว่าราคาน้ำมันในขณะนี้ยังคงมีเสถียรภาพ แม้ลดลงเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่ราคาน้ำมันจะขยับขึ้นก่อนฤดูหนาวนี้  ราคาน้ำมันซื้อขายตลาดเอเชียขยับลงในวันนี้ ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 17 เดือน หลังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงและอุปทานเพิ่มขึ้น ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐประกาศจะทำลายกลุ่มติดอาวุธในซีเรียและอิรัก

+++ราคาทองคำ ยังลงต่อเนื่อง แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ท่ามกลางข่าวลือว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,239.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทรงตัวในกรอบแคบๆ ท่ามกลางความกังวลต่อผลการลงประชามติแยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักรของสกอตแลนด์ และภาวะเงินเฟ้อที่บรรเทาลงในหลายชาติ ดาวโจนส์ ลดลง 20.13 จุด ปิดที่ 17,048.58 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 1.65 จุด  ปิดที่ 1,997.34 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 5.28 จุด  ปิดที่ 4,591.81 จุด

+++ราคาน้ำมัน ฟื้นตัวจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุนหลังร่วงลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นสัปดาห์ สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ ปิดที่ 98.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++การพิจารณาคดีออสการ์ พิสตอเรียส นักวิ่ง 2 เหรียญทองจาก พาราลิมปิก ลอนดอน เกมส์ 2012 เจ้าของฉายา "เบรดรันเนอร์" วัย 27 ปี ก่อเหตุสะเทือนขวัญ หลังใช้อาวุธปืน 9 มม.สังหาร รีวา สตีนแคมป์ แฟนสาวนางแบบ วัย 29 ปี เสียชีวิตคาห้องน้ำ ที่บ้านพักของเขาในย่าน ซิลเวอร์ เลคส์ กอล์ฟ เอสเตท นครพริโตเรียส เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ผู้พิพากษาโทโคไซล์ มาซิปา นั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่ผู้คนทั่วทั้งโลกให้ความสนใจ การไต่สวนและพิจารณาคดีนาน 6 เดือน อัยการและทนายความของเขาเห็นตรงกันว่า พิสตอเรียสฆ่าแฟนสาวของตัวเองจริง แต่ในการไต่สวนพิสตอเรียสอ้างว่า เขาเข้าใจผิดว่าสตีน แคมป์ เป็นโจรขึ้นบ้านจึงได้ยิงปืนผ่านประตูห้องน้ำที่เขาล็อกตัวอยู่ด้านใน ขณะที่อัยการแย้งว่าเขาฆ่าเธอด้วยความโกรธหลังจากทั้งคู่ทะเลาะกัน และการฆาตกรรมครั้งนี้จึงเป็นการฆ่าโดยเจตนา  ผู้พิพากษามาซิปา ระบุว่า เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว หลักฐานที่แสดงไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย แม้จะพ้นความผิดฐานฆ่าคนโดยเจตนาหรือไตร่ตรองไว้ก่อน แต่เขายังอาจมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ซึ่งมีโทษเบากว่า อาจแค่จำคุกหรือรอลงอาญา หรือศาลอาจตัดสินว่าเขาไม่ผิดเลย ฝ่ายโจทก์ยังสามารถอุทธรณ์ต่อศาลสูงได้

+++นายโอมาร์ อับดุลลาห์ มุขมนตรีแคว้นจัมมูและแคชเมียร์ของอินเดีย กล่าวว่า ผู้ประสบภัยน้ำท่วมในแคว้นแคชเมียร์ที่อยู่ในความควบคุมของอินเดีย แสดงความไม่พอใจมากขึ้นเรื่อยๆ กล่าวหารัฐบาลว่า ล่าช้าในการช่วยเหลือ ไม่สรุปสถานการณ์ในภาพรวมให้ประชาชนทราบอย่างสม่ำเสมอ และไม่จัดหาเรือกู้ภัยมาในจำนวนที่มากพอ ผู้ประสบภัยบางส่วนได้เข้าทำร้ายทีมกู้ภัยจนกระทั่งต้องร้องขอกำลังทหารไปช่วยดูแลความปลอดภัย ชาวบ้านบางส่วนได้ปาก้อนหินใส่ทหาร แต่เจ้าหน้าที่ทหารกล่าวกับสื่อมวลชนประจำท้องถิ่นว่า เข้าใจความรู้สึกของผู้ประสบภัย ระบุว่าการกู้ภัยจะยังคงเดินหน้าต่อไป  บ้านเรือนและโรงพบาบาลหลายแห่งในเมืองศรีนาการ์ เมืองเอกของแคว้นแคชเมียร์ จมอยู่ใต้น้ำ นอกจากนี้ ระบบการติดต่อสื่อสารยังไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ประชาชนในพื้นที่ไม่อาจทราบว่า ญาติๆของพวกเขายังปลอดภัยดีอยู่หรือไม่

+++ส่วนในฝั่งชายแดนของปากีสถาน ทางการอยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำออกจากแม่น้ำหลายแห่งหลังเอ่อล้นฝั่งเพื่อป้องกันไม่ให้เขตเมืองมุลตัน รัฐปัญจาป ถูกน้ำท่วม มีการอพยพประชาชนกว่า 7 แสนคนไปยังที่ปลอดภัย สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมจากทั้งสองประเทศขณะนี้เกิน 450 คน คาดวาอาจจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีกในแต่ละวัน

+++สถานการณ์ไวรัสอีโบลา ในไลบีเรีย ทางการเปิดเผยว่า ต้องการเตียงเพิ่มอีกหลายร้อยเตียงเพื่อใช้รักษาผู้ติดเชื้อ องค์การอนามัยโลก หรือฮู เตือนว่าอาจมีผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายพันคนในไลบีเรียในช่วง2-3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้ นายเลวิส บราวน์ รัฐมนตรีข่าวสารของไลบีเรีย กล่าวว่า เฉพาะในพื้นที่ของกรุงมันโรเวียแห่งเดียวต้องการเตียงผู้ป่วย 1,000เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยอีโบลาซึ่งขณะนี้รองรับผู้ป่วยได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้นโดยมีผู้ประมาณ 500เตียง