ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น.
+++หลังการร่างรัฐธรรมนูญ และการออกกฎหมายใหม่ มีการกำหนดเกณฑ์คุณสมบัติของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ต้องดำรงตำแหน่งเป็นอธิบดีหรือเทียบเท่าไม่ต่ำกว่า 5 ปี ทำให้มีความเคลื่อนไหวปรับปรุงการเปรียบเทียบตำแหน่งในข้าราชการทหาร เนื่องจากไม่มีเกณฑ์ที่ชัดเจน เบื้องต้นมีการวางตำแหน่งไว้ที่ระดับ พล.ต. เพราะที่ผ่านมามักมีเพียงระดับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ยศ พล.อ.ที่ถูกมองว่าเทียบเท่าตำแหน่งอธิบดี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเทียบตำแหน่งของข้าราชการทหารกับข้าราชการพลเรือนว่า ร่างดังกล่าวเป็นของรัฐบาลฉบับหนึ่ง และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีอีกฉบับหนึ่ง แต่ยังไม่ทราบเนื้อหาของ สนช.ว่าเป็นอย่างไร จะให้ยศ พล.ต.เทียบเท่าอธิบดีหรืออย่างไร แต่ส่วนของรัฐบาลคิดจะทำเป็นอีกแบบ โดยวางหลักว่าอย่านำยศมาใช้เทียบ แต่ให้นำตำแหน่งมาใช้ ดังนั้นจะยศ พล.ต. พล.ท. หรือ พล.อ. ไม่สำคัญ ถ้ายศ พล.อ. แต่ไม่มีตำแหน่งอะไรก็เทียบไม่ได้
+++ขณะที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สนช. ในฐานะรองประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การบริหารราชการแผ่นดิน สนช. กล่าวว่า ร่างฉบับที่ สนช.เสนอจะมีรายละเอียดกำหนดเพิ่มเติมว่า นอกจากต้องเป็นข้าราชการทหารระดับ พล.ต.แล้ว ยังต้องดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยอีกด้วย ยิ่งถ้ามีเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญกำหนดว่าผู้จะดำรงตำแหน่งเป็นองค์กรอิสระจะต้องดำรงตำแหน่งอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการไม่ต่ำกว่า 5 ปีด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ พล.ต.ที่จะไปเป็นองค์กรอิสระได้ไม่มาก จึงไม่เกี่ยวกับการมีเจตนาให้ทหารเข้าไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระมากขึ้น แต่ต้องการให้การตีความชัดเจน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการทหาร อย่างไรก็ตาม ร่างฉบับที่ สนช.เสนอมานี้ เพิ่งอยู่ในชั้นกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นเท่านั้น ยังไม่ได้เสนอเข้าสู่ ครม.
++++จากการตรวจสอบมีประชาชนแสดงความเห็น ผ่านเว็บไซต์ www.senate.go.th ของ สนช. ระหว่างวันที่ 1-15 พ.ค.2561 มีผู้เข้ามาตอบแบบสอบถามแสดงความคิดเห็น จำนวน 220 คน ปรากฏว่า ผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 214 คนหรือ 97% ไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะเป็นการให้ทหารแฝงตัวเข้ามาก้าวก่ายองค์กรอิสระ ไม่สอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตย ควรกำหนดให้ตำแหน่งข้าราชการอื่นๆ เช่น ตำรวจ อัยการ ศาล รัฐวิสาหกิจ เทียบเคียงกันได้ด้วย
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) แถลงความคืบหน้ากรณีพ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. บุกค้นบ้านพักในหมู่บ้าน สีวลีรามคำแหง ถ.ราษฎร์พัฒนา (ซอย มิสทีน) แขวงและเขตสะพานสูง กทม. เพื่อหาหลักฐานคดีทุจริตเงินทอนวัดหลังพบว่าพระผู้ใหญ่โอนเงิน 25 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของน.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี แม่บ้านในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งมีนายทหารยศ ร.ท. สังกัดศูนย์รักษา ความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน สำหรับความเกี่ยวพันกับคดีเงินทอนวัดนั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าวว่า อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน
+++สำนักข่าว "อิศรา"เปิดเผยประวัติของนายทหารยศ ร.ท. เจ้าของบ้านที่น.ส.นุชรา ชาวจ.บุรีรัมย์ ทำงานเป็นแม่บ้าน อยู่ว่า เคยเป็นเลขานุการนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ช่วงดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เพิ่งได้รับบรรจุ เป็นข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ปี 2559 และมีข่าวสนิทกับพระผู้ใหญ่ในวัดสระเกศด้วยเนื่องจาก มารดาของร.ท.คนนี้เปิดบริษัทรับทำสื่อประชาสัมพันธ์ของวัดสระเกศ
+++ส่วนนายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส อดีตผู้ว่าฯ สตง. กล่าวผ่านสำนักข่าวอิศราว่า นายทหารคนดังกล่าวเคยมาติดตามช่วยงานตนในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้ว่าฯ สตง. อยู่ระยะหนึ่ง เป็นคนที่มีความคล่องตัวในการทำงาน ส่วนรายละเอียดอื่น ไม่ทราบข้อมูลอะไรมาก
+++ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ก่อตั้ง พรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัดที่พบมีพระชั้นผู้ใหญ่ในวัดใหญ่ในกทม.เกี่ยวข้องว่า เป็น กระบวนการทุจริตงบประมาณแผ่นดินของพระชั้นผู้ใหญ่ โดยนำเงินหลวงมาเข้า บัญชีวัด จากนั้นก็โอนเงิน 25 ล้านบาท ไปเข้าบัญชีของสีกา แล้วให้สีกาเบิกเงินเป็นแคชเชียร์เช็คสั่งจ่ายคืนให้กับตนที่เป็นพระชั้นผู้ใหญ่ระดับกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) แล้วนำไปใช้ต่อ
+++เมจิกสกิน ยังติดตามกันอยู่ ล่าสุด ที่สถานบริการเจ้าพระยา 3 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เดินทางไปตรวจสอบหลังรับแจ้งจากนายทองพล เสงี่ยมศักดิ์ ผู้ดูแลลานจอดรถแจ้งว่ามีรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ สีเหลืองขาว ป้ายแดง ทะเบียน น-8886 กรุงเทพมหานคร เข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถ และได้ทิ้งกุญแจรถ พร้อมกับเอกสารสำเนาคู่มือทะเบียนรถไว้ด้วย ตั้งแต่เวลา 00.01 น. วันเดียวกัน จากการตรวจสอบเอกสารสำเนาคู่มือทะเบียนรถระบุว่าเป็นรถยนต์ ทะเบียน 5 กฉ 6095 กรุงเทพมหานคร ตรวจสอบทะเบียนพบ นายอภิวัส พงศ์พัฒนะนุกูล เป็นผู้ครอบครอง ซึ่งเป็น 1 ใน 7 คน ของผู้ต้องหาที่ออกหมายเรียกในคดีเมจิกสกิน ภายในรถยังพบนามบัตรของนายอภิวัส ที่ระบุว่าเป็นกรรมการบริษัท พี โอเอส คอสเมติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ จ.สมุทรสาคร ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน นอกจากนี้พบสินค้าตัวอย่างเซรั่ม สมุดบัญชีธนาคาร 3 บัญชี ซึ่งมีเงินหมุนเวียนหลายล้านบาท
+++ต่อมานำทีมเข้าตรวจค้นบริษัท ฮานิว โคเรีย โรงงานแห่งนี้รับผลิตสินค้าให้กับเมจิกสกินและตรีชฎาด้วย ตรวจค้นไม่พบ ผลิตภัณฑ์เครือเมจิกสกินหรือตรีชฎาเลย พบเพียงสารตั้งต้นและเครื่องผลิตครีมขนาดใหญ่เท่านั้น นายทนงค์ วงค์สมบูรณ์ กรรมการบริหารบริษัท ฮานิว โคเรีย จำกัด ซึ่งร่วมสังเกตการณ์ตรวจค้นของตำรวจได้เปิดเผยว่า บริษัทนี้รับผลิตเนื้อครีมและขายส่ง ยืนยันส่วนผสมรวมถึงสารต่างๆ ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีการแจ้งจดทะเบียนเมื่อปี 2556 และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่อย.เข้ามาตรวจก็ไม่พบสารต้องห้าม พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า จะเชิญผู้บริหารบริษัทไปสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเบื้องต้นในข้อหาโฆษณาเกินจริงที่ บก.ป.
+++นายวุฒิกร หมอนอิง อายุ 30 ปี น้อง น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี ซึ่งเสียชีวิตหลังรับประทานยาลดความอ้วนยี่ห้อลีน เข้าพบ พ.ต.อ.ไพฑูรย์ พูลสวัสดิ์ ผกก.(สอบสวน) กก.4 บก.ปคบ. ยื่นหนังสือให้เอาผิดกับผู้ประกอบการที่ทำให้ น.ส.พิมลวรรณเสียชีวิต พ.ต.อ.ไพฑูรย์กล่าวว่า หากคดีนี้มีความซับซ้อนจะเสนอเรื่องให้ทางผู้บังคับบัญชาทราบ ขอโอนสำนวนคดีมายัง ปคบ.ดำเนินการให้
+++ยาสีฟัน ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา แถลงข่าวกรณีผู้ประกอบการขายยาสีฟันยี่ห้อหนึ่งบรรจุในหลอดสีเหลืองทอง กล่องสีน้ำตาล โฆษณาโอ้อวดสรรพคุณเป็นเท็จ พร้อมแอบอ้างใช้ชื่อและภาพของพิธีกรทั้ง 2 คน และยังแอบอ้างผู้อื่นอีกมาโฆษณาผ่านเว็บไซต์จนมีผู้หลงเชื่อ โฆษณาอวดอ้างสรรพคุณว่าช่วยขจัดคราบเหลืองภายใน 1 สัปดาห์ ลดปัญหาฟันผุและช่วยให้หินปูนหลุดออกภายใน 1 เดือน ถ้าใช้ต่อเนื่องจะทำให้ฟันขาวขึ้น ซึ่งยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ยาสีฟันจัดเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ เพราะมีสารฟลูออไรด์ผสมอยู่ด้วย ดังนั้นการผลิตและจำหน่ายจะต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ก่อนจะโฆษณาต้องขออนุญาต สำหรับโทษกรณีการโฆษณาในส่วนของ อย. จะมีโทษตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.2558 กรณีโฆษณาเป็นเท็จหรือเกินความจริง จำคุก 1 ปี ปรับ 100,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
+++กลุ่มผู้ขับขี่จักรยานยนต์สาธารณะจากกลุ่ม "เพื่อนแท้ชาววิน" จำนวนมากรวมตัวกันประท้วงที่หน้าอาคารธนภูมิ ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท บริษัทแกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเรียกร้องให้บริษัทหยุดปิดโอกาสให้รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล (ป้ายทะเบียนสีขาว) มารับส่งผู้โดยสาร ผ่านแอพพลิเคชั่นโดยทางกลุ่ม ผู้ชุมนุมได้แสดงสัญลักษณ์ด้วยการ นำพวกหรีดที่ติดชื่อคณะผู้บริหาร แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จากนั้นได้เผาเสื้อวินมอเตอร์ไซค์ ก่อนยืนหนังสือถึง 6 ข้อเรียกร้องกับตัวแทนบริษัทประกอบด้วย 1.หยุดฝ่าฝืนกฎหมายของประเทศ 2.หยุดสนับสนุน ให้รถผิดประเภทมารับส่งผู้โดยสาร 3.หยุดสร้างความเข้าใจผิดให้ประชาชน 4.หยุดสร้างผลกระทบต่อความมั่นคง 5.หยุดทำลายระบบขนส่งภายในประเทศ และ6.บริษัทควรมีธรรมาภิบาล และจริยธรรม พร้อมอยากให้ทางกรมขนส่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ และจะติดตามต่อไปหลังจากนี้อีก 15 วัน หากยังไม่มีความคืบหน้าจะไปรวมตัวที่กรมการขนส่งทางบก เพื่อขับไล่อธิบดีฯ ต่อไป
รองประธานสว. พร้อมชี้แจง ปมฮั้วเลือกตั้ง
...
เข้าฤดูฝนอย่างเป็นทางการในวันนี้ เตือนฝนตกต่อเนื่อง ภาคเหนือ อีสาน ตะวันออก กทม.
...
สำนักการระบายน้ำ กทม. ตรวจสอบความพร้อม อุโมงค์ระบายน้ำ –กำจัดสิ่งกีดขวาง
...
ข่าวทั้งหมด
