+++ก่อนที่จะถึงพิธีเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ แห่งเวลส์ รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับน.ส.เมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้นชาวอเมริกันในวันเสาร์ที่ 19 พ.ค. ร้านเบเกอรี่แห่งเมืองวินด์เซอร์ ได้จัดทำเครื่องดื่มร้อนชนิดพิเศษกาแฟคาปูชิโนและลาเต้แต่งหน้าด้วยฟองนม พระพักตร์ของคู่วิวาห์แห่งราชวงศ์อังกฤษโดยใช้ชื่อว่า Megharrycino(เมการ์รี่ชิโน) พนักงานชงกาแฟแห่งร้านไฮดี้เบเกอร์ใช้อุปกรณ์พิเศษสำหรับตกแต่ง จำหน่ายในราคาแก้วละ 4.5 ปอนด์ (6ดอลลาร์สหรัฐฯหรือประมาณ 186 บาท) ซึ่งหุ้นส่วนเจ้าของร้านคือนายเอ็ดเวิร์ด เดอร์กิ้น บอกว่า เป็นกาแฟแก้วพิเศษ ซึ่งอาจจะแพงกว่ากาแฟปกติ แต่พิสูจน์ได้ว่าได้รับความนิยมเพราะมีคนมาสั่งดื่มอย่างต่อเนื่อง
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างประกาศจากพระตำหนักเคนซิงตันของอังกฤษว่า ในพิธีเสกสมรส น.ส.เมแกน จะมีเพื่อนเจ้าสาว 6 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ พระธิดาวัย 3 ชันษา ของพระเชษฐาคือดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ โดยผู้ที่มีอายุต่ำสุดในจำนวนเพื่อนเจ้าสาว 6 คนและเด็กชาย 4 คนที่คอยโปรยกลีบดอกไม้ในพิธีเสกสมรส ตามที่เจ้าชายแฮร์รี่และน.ส.เมแกน คัดเลือกมานั้นคือ 2 ขวบและผู้ที่อายุมากที่สุดคือ 7 ขวบ เด็กชายที่คอยทำหน้าที่โปรยกลีบดอกไม้ในพิธีคือ เจ้าชายจอร์จ วัย 4 ชันษา พระโอรสพระองค์แรกของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์
+++กรณีบิดาของน.ส.เมแกน สื่อสหรัฐฯ รายงานว่าไม่สามารถเข้าร่วมพิธีได้ เนื่องจาก ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคหัวใจ 3 วันก่อนพิธีเสกสมรสจะมีขึ้น
+++สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดอีกครั้ง นายคิม คเยกวาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนที่ 1 ของเกาหลีเหนือ แถลงว่า หากสหรัฐฯยังพยายามต้อนเกาหลีเหนือให้จนมุมเพื่อบังคับให้เกาหลีเหนือล้มเลิกนิวเคลียร์โดยฝ่ายเดียว จะไม่สนใจเรื่องการเจรจาอีกต่อไป นายคิม แสดงความไม่พอใจต่อคำกล่าวของนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เสนอจะให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจหากเกาหลีเหนือยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ โดยกล่าวว่า เกาหลีเหนือไม่เคยคาดหวังให้สหรัฐฯสนับสนุนการสร้างเศรษฐกิจ และจะไม่ทำข้อตกลงลักษณะนี้ในอนาคต
+++การซ้อมรบนาน 2 สัปดาห์เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ มีอากาศยานของกองทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้ราว 100 ลำเข้าร่วม ซึ่งเคซีเอ็นเอกล่าวว่า มีเครื่องบินรบสเตลธ์ เอฟ-22, เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-52 และอาวุธยุทโธปกรณ์ด้านนิวเคลียร์ แต่โฆษกกองบัญชาการสหรัฐฯในเกาหลีใต้ปฏิเสธว่า ไม่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดเข้าร่วมการฝึกครั้งนี้
+++นายเฮทเธอร์ นาเวิร์ด โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐจะ ดำเนินการตามแผนสำหรับการประชุมสุดยอดในเดือนหน้า ยังไม่ได้รับแจ้งจากเกาหลีเหนือเรื่องการเปลี่ยนแปลงจุดยืน
+++นายหลู่ กัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ทั้งสหรัฐฯและเกาหลีเหนือควรจะให้หลักประกันว่าการประชุมสุดยอดร่วมกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯกับนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะต้องดำเนินต่อไปตามแผนการที่กำหนดและได้ผลเป็นจริง เพราะเป็นหนทางเดียวที่จะบรรเทาสถานการณ์และรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
+++สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ในพื้นที่ฉนวนกาซา ทางการปาเลสไตน์ เรียกทูตของตัวเองที่ประจำโรมาเนีย, สาธารณรัฐเช็ก, ฮังการี และออสเตรีย กลับประเทศ หลังจากเอกอัครราชทูตประเทศเหล่านี้เข้าร่วมพิธีต้อนรับของอิสราเอลในโอกาสที่สหรัฐฯ ย้ายสถานทูตไปประจำเยรูซาเลม ด้านกัวเตมาลาเป็นประเทศที่ 2 ที่ย้ายสถานทูตมาประจำที่เยรูซาเลม และยังมีปารากวัยอีกชาติที่ประกาศแผนจะย้ายสถานทูตด้วยเช่นกัน คาดว่าจะเป็นก่อนสิ้นเดือนนี้
+++เหตุปะทะที่รุนแรง กลายเป็นข้อพิพาททางการทูตระหว่างตุรกีกับอิสราเอล ล่าสุดตุรกี ให้กงสุลใหญ่อิสราเอลประจำนครอิสตันบูลกลับประเทศชั่วคราว รวมทั้งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมฉุกเฉินองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ในวันศุกร์นี้ รวมทั้งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติจะจัดการประชุมนัดพิเศษครั้งที่ 28 ในวันศุกร์ เวลา 15.00 น.ตามเวลาในไทยที่นครเจนีวา เพื่อหารือสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน หลังจากการประชุมเมื่อปีที่แล้วหารือสถานการณ์ในเมียนมา
+++ประธานาธิบดีเรเจพ ทายยิพ แอร์โดอานของตุรกี ระบุว่า การที่กองกำลังอิสราเอล สังหารชาวปาเลสไตน์เป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และได้ประณามอิสราเอลว่าเป็นรัฐก่อการร้าย พร้อมกับประกาศไว้อาลัยให้ชาวปาเลสไตน์เป็นเวลา 3 วัน นอกจากนี้ยังได้ปะทะคารมกับนายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล ผ่านทางทวีตเตอร์ด้วย
+++ขณะที่ อิสราเอล ได้ให้กงสุลตุรกีในนครเยรูซาเล็ม ออกนอกประเทศอย่างไม่มีกำหนดเช่นเดียวกัน
+++ไปที่อินโดนีเซีย ตำรวจอินโดนีเซีย วิสามัญฆาตกรรมคนร้ายชาย 4 คน ใช้ดาบบุกโจมตี สำนักงานใหญ่ตำรวจบนเกาะสุมาตรา ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย นอกจากนี้ ยังจับเป็นคนร้ายได้อีก 1 คน นับเป็นเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซียครั้งล่าสุด หลังเกิดเหตุโจมตีโบสถ์ 3 แห่งและสำนักงานใหญ่ตำรวจในเมืองสุราบายาเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์
+++ส่วนที่มาเลเซีย สมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานอภัยโทษให้แก่นายอันวาร์ อิบราฮิม พ้นจากความผิดในคดีมีเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าเป็น คดีการเมือง ทำให้นายอันวาร์ ปัจจุบันอายุ 70 ปี ต้องรับโทษจำคุกนานถึง 3 ปี
+++นับจากนี้นายอันวาร์ จะต้องพยายามด้วยตัวเองในการกลับเข้าสู่เส้นทางการเมืองตามกระบวนการ เริ่มจากการลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก่อน แล้วจึงเข้าร่วมในคณะรัฐบาลของนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด โดยนายอันวาร์ กล่าวว่า จากประสบการณ์การทำงานร่วมกับนายกฯมหาเธร์ มานานหลายปี แม้มีความขัดแย้งกันอย่างหนักในบางเรื่อง แต่โดยส่วนตัวเขาเชื่อว่านายกฯมหาเธร์ มีความรักต่อมาเลเซียและชาวมาเลเซียทุกคนไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด
+++มีรายงานว่า รถตำรวจกว่า 10 คันได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ บุกเข้าค้นบ้านพักของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในกรุงกัวลาลัมเปอร์ช่วงค่ำวานนี้ แต่ตำรวจ ยังไม่ได้แถลงหรือชี้แจงใดๆถึงรายละเอียดของปฏิบัติการครั้งนี้ แต่สื่อท้องถิ่นรายงานอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของนายนาจิบเป็นไปตามข้อกล่าวหาว่ามีการยักยอกเงินจำนวนหลายพันล้านดอลลาร์จากกองทุนเพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งหากเป็นเรื่องจริง ก็เป็นสัญญาณบ่งบอกได้ว่า นายนาจิบ ที่ขณะนี้ถูกทางการสั่งห้ามออกนอกประเทศ ต้องถูกดำเนินคดี
+++ประชาชนหลายแสนคน ยังเผชิญปัญหาไฟดับในพื้นที่แถบนอร์ทอีสต์ของสหรัฐฯ หลังจากพายุพัดกระหน่ำมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกทั่วพื้นที่ มีผู้เสียชีวิต 3 คน และมีรายงานว่า เด็กหญิงวัย 11 ปีเสียชีวิตจากลมแรงทำให้ต้นไม้โค่นทับรถยนต์ที่จอดอยู่ในนครนิวยอร์ก
+++เว็บไซต์ไฟฟ้าในสหรัฐฯ รายงานว่า ประชาชนราว 360,000 คนในรัฐนิวยอร์ก นิวเจอร์ซีย์ คอนเนตทิคัต เพนซิลวาเนีย และเวสต์เวอร์จิเนีย เผชิญกับภาวะไฟดับหลังพายุกระหน่ำ โรงเรียนหลายแห่งต้องเลื่อนหรือยกเลิกการสอน สถานีพยากรณ์อากาศแห่งชาติ เตือนว่า ขบวนรถไฟโดยสารบางเส้นทางในนครนิวยอร์ก ต้องระงับหรือเลื่อนการให้บริการออกไป
CR:BBC