หลังการประชุมกวาดล้างนายทุนหนี้นอกระบบผิดกฎหมายทั่วประเทศ ที่ประชุมร่วมกับผู้แทนจากกระทรวงการคลัง พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า มาตรการหลังจากนี้จะเน้นหนักไปที่การขยายผลไปสู่นายทุน ผู้มีพฤติการณ์มาเฟียอยู่เบื้องหลัง จากการตรวจสอบพบว่า มีนายทุนหนี้นอกระบบกลุ่มใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดทางภาคตะวันออก จ.ชลบุรี และจ.ระยอง ส่วนรายอื่นๆ อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ จ.ขอนแก่น และจ.อุดรธานี
พลตำรวจโทชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยว่ามีผู้ต้องสงสัยเข้าข่ายนายทุนหนี้นอกระบบจำนวน 762 คน พร้อมยอมรับว่า มีรายชื่อที่สำนักงานแห่งชาติ ตรวจสอบอยู่ ในจำนวนนี้ยังไม่พบเข้าข่ายเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และไม่มีรายชื่อข้าราชการตำรวจ ทหาร เข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งตำรวจ ได้ส่งชุดติดตามสืบสวนขยายผลไปยังนายทุนที่มีการติดตามทวงหนี้ทุกประเภทโดยเฉพาะรายที่มีการบีบบังคับให้นำทรัพย์สิน อาทิ โฉนดที่ดินมาไถ่ถอนหนี้สิน
ด้านนายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลังระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงได้พยายามประสานกับทุกหน่วยเพื่อแก้ปัญหาให้เป็นไปตามนโยบายหลักๆ 5 มิติ ประกอบด้วย การดำเนินการกับเจ้าหนี้นอกระบบที่ผิดกฎหมายอย่างเต็มที่, การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับประชาชนทั่วไป แทนการไปกู้หนี้นอกระบบ, ออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบ นายทุน ปล่อยกู้ให้ประชาชน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท ขณะนี้ มีผู้ประกอบการนายทุน 470 ราย ยื่นขอใบอนุญาต และได้อนุญาตแล้ว 348 ราย, ขอความร่วมมือกับตำรวจ ประสานระดับท้องถิ่นในการไกล่เกลี่ยประนอมหนี้นอกระบบ โดยมีอัยการ คุ้มครองสิทธิ์ประชาชน เพิ่มช่องทางให้ประชาชนขอความเป็นธรรมได้หลายช่องทาง ตลอดจนดำเนินการตามนโยบายเพิ่มศักยภาพลูกหนี้นอกระบบ โดยสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ ในการหารายได้เพิ่มเติมในอนาคตให้ครบวงจร
ผู้สื่อข่าว: ปภาดา พูลสุข