การสนับสนุนให้นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีเหมือนกรณีนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า กลุ่มที่สนับสนุนหลักมาเลเซียโมเดล และหนุนให้นายชวน กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี มองว่านายชวน น่าจะแข่งกับพรรคนอมินีทหารในอนาคตได้ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการที่จะแข่งหรือจับมือกับใคร และที่ผ่านมานายชวน ก็เป็นที่ปรึกษาให้กับพรรคมาตลอด ครั้งล่าสุดที่พบกันนายชวน ยังพูดกับตัวเองว่าเป็นนายมหาเธร์ ตอนนี้ไม่ได้ คงต้องรออีก 12 ปี เพราะจะได้มีอายุเท่ากับนายมหาเธร์ ในปัจจุบัน
ส่วนการประเมินผลงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ครบ 4 ปี มองว่า หลังเลือกตั้ง จึงจะมีความชัดเจนและประเมินผลได้เพราะต้องอย่าลืมว่าคสช.เข้ามาเพื่อปฏิรูปประเทศ แต่เกือบ 4 ปี สิ่งที่เป็นความสำเร็จของคสช.มีเพียงการรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ยังไม่เห็นถึงความชัดเจนของการปฏิรูปว่าจะเดินไปในทิศทางใด ส่วนภาคเศรษฐกิจ พบว่าประชากรส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ในระดับเดิม รัฐบาลไม่สามารถยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้กับประชาชนได้จริง ตัวเองเคยเตือนมาแต่ต้นแล้วว่าการปฏิรูปเป็นการเสียเวลา ซึ่งก็เห็นได้จากสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) ที่ใช้เวลาหลายปี แต่ไม่สามารถผลักดันการปฏิรูปใดๆให้เป็นรูปธรรมได้ อีกตัวอย่างที่เห็นชัดคือการปฏิรูปตำรวจที่ขณะนี้มีการจัดทำแผนปฏิรูปของคณะกรรมการชุดใหม่ซึ่งเสมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด ทั้งๆที่มีความพยายามทำมานานแล้ว
นายอภิสิทธิ์ ระบุถึงการที่คสช.เตรียมเรียกพรรคการเมืองไปหารือในเดือนมิถุนายนนี้ว่าพรรคพร้อมเข้าไปพูดคุย และจะบอกกับคสช.ว่าแนวทางต่างๆที่คสช.กำหนดออกมาล้วนเป็นอุปสรรคขัดขวางพรรคอย่างไร เพราะขณะนี้พรรคต้องจ้างนักศึกษามาดำเนินการเรื่องจัดทำสมาชิกพรรคจำนวนมากในทุกวันเพื่อให้ทันตามคำสั่ง คสช.
กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ กำลังจะมีคำวินิจฉัยในไม่กี่วันนี้ว่าคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ ส่วนตัวพร้อมรับคำตัดสินของศาล ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นแบบใด แต่ติดใจเหตุผลที่คสช.ขอเลื่อนการทำคำชี้แจงส่งศาลรัฐธรรมนูญซึ่งอาจทำให้ศาลต้องใช้เวลาในการวินิจฉัยเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าว: ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร