ผลกระทบการเมืองไทย หลัง ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด ชนะการเลือกตั้งและกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีของมาเลเซียอีกครั้ง
นายชัยวัฒน์ มีสันฐาน อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานศูนย์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา สถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) มองว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบกับการเมืองไทยทางตรง แต่ในผลกระทบทางอ้อมจะเป็นแรงกดดันต่อรัฐบาลไทยขณะนี้พอสมควรเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้ง ส่วนการเลือกตั้งของมาเลเชียนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่ามีการบริหารประเทศในลักษณะของพรรคร่วมรัฐบาลมาอย่างยาวนาน นายกรัฐมนตรีมีอำนาจในการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ เห็นได้จากการใช้มาตรการต่างๆ สกัดกั้นฝ่ายตรงข้าม ทำให้นายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีมีความมั่นใจมากว่าจะชนะการเลือกตั้ง แต่เมื่อผลที่ออกมาว่า ดร.มหาเธร์ชนะขาดลอย สะท้อนให้เห็นว่าถึงผู้บริหารจะมีอำนาจจัดการมาก แต่หากประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศไม่ยอมรับ ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ ดังนั้นอำนาจที่แท้จริงจึงเป็นของประชาชนในการเลือก ไม่ได้อยู่ที่รัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นเพียงผู้รับอำนาจจากประชาชน
ส่วนการดำเนินคดี นายนาจิบในข้อกล่าวหาว่าทุจริตเงินกองทุน 1MDB นั้นมองว่า ที่ผ่านมาการเอาผิดนักการเมืองของมาเลเซียกับไทย ยังมีข้อแตกต่างกันมาก ซึ่งรวมถึงการดำเนินคดีนายอันวาร์ อิบราฮิม ในคดีประพฤติผิดทางเพศ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาไม่คิดหนีมีการเข้าสู่กระบวนการทางยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ และยอมรับกับผลที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามหลังจากนี้คือการผลักดันนโยบายหลักของ ดร.มหาเธร์ โดยเฉพาะการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารจัดการต่างๆ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมาเลเซีย
....
ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม
ภาพ** Thaimuslim