ประชาชนทยอยจับจองพื้นที่รอบสนามหลวง รอชมงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ

14 พฤษภาคม 2561, 06:54น.


การจัดงานพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี  2561 ซึ่งตรงกับวันที่ 14 พ.ค. 2561 กรมการข้าว หน่วยงานที่ดำเนินการปลูกข้าว ที่แปลงนาทดลองในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาในฤดูนาปี 2560 ได้ขอพระราชทานพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานทั้งหมด 7 พันธุ์ ประกอบด้วย ปทุมธานี 1 ขาวดอกมะลิ 105 สังข์หยดพัทลุง กข 6 กข43  กข 57 และ กข 71 รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 1,799 กิโลกรัม จัดเป็นพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานและขอพระราชานุญาตจัดเป็นพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานบรรจุซอง 361,000 ซอง แจกจ่ายเพื่อเป็นมิ่งขวัญและสิริมงคลในการประกอบอาชีพการเกษตร


พระราชพิธีจะเริ่มต้นขึ้นในเวลา 08.30 น. มีนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่พระยาแรกนา ส่วนเทพีคู่หาบทอง ในปีนี้ ได้แก่ นางสาวพรพิมล ศิริการ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมส่งเสริมการเกษตร น.ส.นันทวัน สุวรรณสถิตย์ นักวิชาการสิ่งแวดล้อมชำนาญการ กรมชลประทาน เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ น.ส.กันยารัตน์ นาคกูล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ น.ส.ดวงพร งามประดิษฐ์ นักจัดการงานทั่วไปปฏิบัติการ กรมวิชาการเกษตร


พระโคแรกนา ได้แก่ พระโคพอ พระโคเพียง ฝาแฝดสายพันธุ์โคขาวลำพูน จากอำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน วัย 6 ปี ที่ในปีนี้เป็นพระโคนาขวัญปีแรก และได้ผ่านการเป็นพระโคสำรอง มาแล้ว 2 ปี โดยพระโคทั้งคู่มีลักษณะดีตรงตำรา คือ มีขวัญดี 5 จุด หางยาวเลยเข่า กีบเท้าขาว ขนมันเงางาม และมีลักษณะใกล้เคียงกัน ต่างกันที่พระโคเพียง มีเขาใหญ่และหน้าผากกว้างกว่า ส่วนพระโคสำรองในปีนี้ ได้แก่ พระโคเพิ่ม และพระโคพูล ขณะที่อาหารเสี่ยงทายพระโคในปีนี้มี 4 ประเภท หากพระโคกินข้าวหรือข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี หากพระโคกินถั่วหรืองา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี หากพระโคกินน้ำหรือหญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควรธัญญาหารผลาหาร ภักษาหาร มังสาหารจะอุดมสมบูรณ์ และหากพระโคกินเหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับ ต่างประเทศดีขึ้น ทำให้เศรษฐกิจรุ่งเรือง




บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้ามีเกษตรกรและประชาชนทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดเริ่มทยอยเดินทางมารอโดยรอบท้องสนามหลวงตั้งแต่เช้ามืด เพื่อชมงานพระราชพิธีและเตรียมเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีนำไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเริ่มเปิดให้ประชาชนเข้าด้านในท้องสนามหลวง ตั้งแต่เวลา 07.30 น. ผ่านทางเข้า-ออก 2 จุด บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา กับ ฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผ่านจุดคัดกรอง พร้อมทั้งแสดงบัตรประจำตัวประชาชน




นางวรัญรัตน์ แสนดี อายุ 46 ปี เล่าว่า เช้านี้ตั้งใจเดินมาชมงานพระราชพิธี ซึ่งมารอตั้งแต่ตี 5 นอกจากนี้ยังเตรียมมาเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน เพื่อเป็นที่ระลึกและนำไปบูชา เพราะมีความสนใจในการเกษตรและตั้งใจว่า อีก 2 ปี จะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิดจังหวัดสุรินทร์ ไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม  เนื่องจากอายุมากขึ้น และมีที่ทำกินอยู่ จึงอยากไปใช้ชีวิตบั้นปลายกับครอบครัว ไปปลูกพืชผลการเกษตรตามกำลังความสามารถ เพราะขณะนี้ที่จังหวัดสุรินทร์เองก็สามารถเพาะปลูกผักผลไม้ได้หลายชนิดแล้ว อีกทั้งตัวเองก็มาอยู่กรุงเทพฯ กว่า 20 ปี จึงอยากกลับไปใช้ชีวิตอยู่อย่างพอเพียงที่บ้านเกิด


 


 


...


ผสข.เกตุกนก ครองคุ้ม
ข่าวทั้งหมด

X