*โปรดเกล้า"สุภา"เป็นปปช.แล้ว/เอาผิดอดีตเลขาฯสภาทุจริตจัดซื้อนาฬิกา/แพทยสภาสอบจริยธรรมหมออุ้มบุญ*

11 กันยายน 2557, 08:29น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30



+++มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป.ป.ช.แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. ส่วนการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ว่า ตอนนี้ครบกำหนดวันยื่นแล้ว แต่ยังยื่นมาไม่ครบถ้วน ล่าช้าจากวันครบกำหนดเพียง 2-3 วันนั้นก็ถือว่าไม่ได้มีนัยสำคัญ หรือผิดปกติแต่อย่างใด ส่วนการเปิดเผยต่อสาธารณะนั้น คาดว่าจะเป็นวันที่ 3 ต.ค.



+++ส่วน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แจ้งความผิด หลังการตรวจสอบโครงการปรับปรุงระบบนาฬิกา(clock systems) สำหรับติดตั้งบริเวณภายในและโดยรอบอาคารรัฐสภา ของสำนักเลขาธิการสภาฯ มูลค่า 14,891,083 บาท หลังสำนักเลขาธิการสภาฯ ได้รับหนังสือจากสตง.เมื่อวันที่ 29 ก.ค.2557 ได้รวบรวมข้อมูลต่างๆในคดีเพื่อความรอบคอบ และสั่งการให้นิติกรของสำนักงานฯ ไปดำเนินการแจ้งความเอาผิดทางอาญากับผู้เกี่ยวข้อในโครงการ 11 คน รวมถึงนายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร



+++ก่อนหน้านี้   ในโลกออนไลน์ร่วมตรวจสอบราคานาฬิกาดังกล่าวจากเว็บไซต์ต่างๆในต่างประเทศและพบว่า นาฬิการุ่นที่รัฐสภาจัดซื้อ มีราคารขายเฉลี่ยแค่ 16,800 - 25,000บาทเท่านั้น  โดยฝ่ายค้านในครั้งนั้น ได้อภิปรายถึงโครงการจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ของรัฐสภาพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ใช้งบประมาณมากเกินกว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดซื้อนาฬิกาติดผนังยี่ห้อ Bodet ของอังกฤษ รุ่น Cristalys Date ที่มีการจัดซื้อจำนวน 200 เรือนโดยใช้งบประมาณกว่า 15 ล้านบาท หรือคิดเป็นราคาเรือนละ 75,000บาท



+++นาฬิกาถูกระบุว่า มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ทุกเรือนสามารถเดินตรงตามเวลาที่แท้จริงได้ทุกเรือน ถ้ามีนาฬิกาเรือนใดเรือนหนึ่งเสียนาฬิกาเรือนที่เหลือก็จะหยุดเดินทันที และสามารถบอกวันเวลาของต่างประเทศ รวมทั้งบอกอุณหภูมิได้ด้วย แต่มีราคาแพงเกินเหตุถึง 70,000 – 80,000 บาท



+++การตรวจสอบข้าวในโกงของรัฐ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจวิเคราะห์คุณภาพตัวอย่างข้าวจากห้องปฏิบัติการ ว่า  ผลการตรวจสมบูรณ์ ถึงวันที่ 4 ก.ย. 57 รวม 5,133 ตัวอย่าง พบมีข้าวผ่านมาตรฐานคุณภาพข้าวของกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 1,064 ตัวอย่าง หรือ ร้อยละ 20.73  แต่ข้าวที่ไม่ผ่านมาตรฐาน แต่ปรับปรุงให้ได้มาตรฐานได้ ลดราคาตามสัดส่วน จำนวน 3,626 ตัวอย่าง หรือ ร้อยละ 70.64 ข้าวที่ผิดจากมาตรฐาน อาทิ ข้าวเสื่อม ขายตามสภาพข้าว ราคาต่ำ จำนวน 437 ตัวอย่าง หรือ 8.52 เปอร์เซ็นต์ และข้าวผิดชนิดข้าว หมายถึงไม่ตรงตามที่แจ้ง จำนวน 6 ตัวอย่าง หรือ ร้อยละ 0.12



+++ความคืบหน้าในการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ นางสันทนี ดิษยบุตร รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด  เปิดเผยว่า อัยการได้ส่งรายชื่อคณะทำงานร่วมของฝ่ายอัยการจำนวน 10 คนโดยมีนายวุฒิพงศ์ บูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสูด เป็นหัวหน้าคณะฯ ให้กับ ป.ป.ช.ทราบ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ย. ส่วนจะเริ่มนัดประชุมร่วมกันครั้งแรกเมื่อใดนั้น  คงจะต้องรอให้เลขานุการของคณะทำงานร่วมทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งเป็นผู้แทนจากฝ่าย ป.ป.ช. เป็นผู้กำหนดวันนัดประชุมร่วมกัน ต่อไป



+++คดีอุ้มบุญ หลังพบมีตำรวจ ร่วมข่มขู่ แม่อุ้มบุญให้ชาวต่างชาติ จนมูลนิธิปวีณา ต้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ซึ่งยอมรับว่า ชาย ทั้ง 3 ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชั้นประทวน ในสังกัดกองบัญชาการนครบาล (บช.น.) แต่จะต้องทำการสืบสวนข้อเท็จจริง ว่าเข้าไปเกี่ยวข้องโดยมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือไม่ หากพบว่ามีความผิด ก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียด เพื่อความชัดเจน



ด้าน พ.ต.ท.ประพจน์ อนุศิริ รอง ผกก.สส.สน.ดินแดง ชี้แจงกรณีมีการระบุว่าตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ดินแดง 3 คน ไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการติดตามตัวแม่อุ้มบุญว่า กรณีนี้มีหลักฐานเป็นบันทึกประจำวัน ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเข้าใจผิด เรื่องนี้เกิดขึ้นวันที่ 6 ก.ย. นายภูวรินทร์ ทองคำ อายุ 45 ปี ทนายความประจำสำนักงานย่านเขตดินแดง เข้าให้เบาะแสว่าท้องที่ สน.ดินแดง มีบริษัทรับอุ้มบุญ จึงสั่งการให้ ด.ต.ชัยยุทธ จำนงการ ด.ต.จิระศักดิ์ โดยคำดี และ ด.ต.ศรุต กโนทร ทั้งหมดเป็น ผบ.หมู่ สส. สน.ดินแดง ลงพื้นที่หาข่าว ทำให้ทราบว่า น.ส.ออน รับอุ้มบุญให้ชาวต่างชาติสัญชาติจีน ผ่านเอเย่นต์รับจ้างอุ้มบุญชาวต่างชาติ จึงพยายามตามตัวมาสอบสวน หวังขยายผลหาขบวนการ ตัวสามียอมรับว่าภรรยารับอุ้มบุญจริง แต่เมื่ออีกฝ่ายจะให้ไปคลอดต่างประเทศ ก็ไม่ยินยอม และหนีซ่อนตัวเรื่อยมา ยืนยันว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด และไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายหรือข่มขู่ครอบครัวแม่อุ้มบุญ



ส่วนกรณีหญิงรับจ้างอุ้มบุญชาว อ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย ซึ่งรับจ้างอุ้มบุญให้กับ นายชิเกตะ มัติสึโตกิ  พ่อชาวญี่ปุ่น เข้ารับการผ่าคลอดก่อนกำหนด ได้ทารกเพศหญิงที่ รพ.เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 4 กันยายน ล่าสุดพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย ขอเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด ป้องกันการนำตัวเด็กออกนอกประเทศแล้ว โดยจะดูแลจนกว่าการตรวจสอบ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมารดาเด็กจะเสร็จสิ้น



ส่วนบ่ายวันนี้ แพทยสภาหารือ การสอบสวน นายแพทย์พิสิฐ ตันติวัฒนกุล แพทย์เจ้าของคลีนิคออลไอวีเอฟ ย่านเพลินจิต ผู้ต้องสงสัยทำอุ้มบุญให้ ชาวญี่ปุ่น



+++กรณีที่มีผู้นำภาพและข้อความไปโพสต์ในโซเชียลมีเดียอ้างว่าเป็นผู้โดยสารขึ้นเครื่องบินจากท่าอากาศยานเชียงใหม่ โดยสามารถนำอาวุธปืนปลอมขึ้นไปบนเครื่องบินได้โดยไม่ตั้งใจและไม่ทราบว่าผ่านระบบตรวจค้นของท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปได้อย่างไร ทั้งที่มีเครื่องสแกนบุคคลและเครื่องสแกนสัมภาระ  นาวาอากาศโทหลักชัย เฉลยปราชญ์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่  ได้นำสื่อมวลชนดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย การตรวจค้นคน และสัมภาระที่เข้ามาภายในท่าอากาศยาน และขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งมีการสาธิตกระบวนการขั้นตอนการตรวจค้นด้วยอุปกรณ์ ซึ่งมีการทำอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมทั้งมีการทดลองนำ อาวุธปืนผ่านเข้าเครื่องตรวจค้นด้วย ซึ่งเครื่องสแกน และเอกซเรย์สามารถตรวจพบได้อย่างแม่นยำ   



+++สำหรับผู้โดยสารที่อ้างว่านำอาวุธปืนปลอมขึ้นไปบนเครื่องบินได้นั้น ถือว่ามีความผิดตาม พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 จากการการที่ผู้โดยสารนำสิ่งเทียมอาวุธปืนขึ้นไปบนเครื่องบิน ซึ่งมีโทษทั้งปรับและจำคุก โดยหากตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริงและติดตามจนพบตัวผู้โดยสารคนดังกล่าวก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 8 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนจะมีการดิตเครดิสบริษัทรักษาความปลอดภัยหรือไม่ ไม่อยากมองในเรื่องนั้น ซึ่งใกล้จะหมดสัญญา และมีการประมูลในต้นปีหน้า"



+++ข้อขัดแย้งช่อง 3 อะนาล็อก  นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นข้อเสนอต่อสำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ไปแล้วว่า ให้ช่อง3 อนาล็อค สามารถออกอากาศได้แบบเรียล ไทม์ พาส ทู (Real time pass thru) หรือการนำสัญญาณการออกอากาศของช่อง3 ไปออกอากาศโดยไม่ได้แก้ไขหรือดัดแปลงสัญญาณแต่อย่างใด ซึ่งที่ผ่านมาทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวีได้ทำหน้าที่เป็นเสาอากาศให้ฟรีทีวีในการรับส่งสัญญาณอนาล็อคไปยังผู้ชม  ดังนั้นถ้า กสทช.อยากให้ช่อง3 ไปออกอากาศในช่อง3ทีวีดิจิทัล ก็ต้องไปเจรจากับบริษัทบีอีซี-มัลติมีเดียเอง ไม่ใช่ให้บริษัทบางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ที่ดูแลช่อง 3 อนาล็อค ซึ่งไม่มีใบอนุญาต เป็นผู้เจรจา



+++ด้านน.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ยืนยันว่าทำได้ทันที เหมือนกับ การออกอากาศคู่ขนาน ที่ช่อง 7 ดำเนินการอยู่ แต่หากช่อง 3 ต้องการให้ กสทช.เข้าไปเจรจาก็ยินดี



+++ส่วนความคืบหน้าการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิทัล ซึ่ง กสทช.ต้องเริ่มแจกให้ประชาชนในวันที่ 15 ตุลาคม โดยพ.ต.อ.บุญส่ง จันทรีศรี รอง ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า สำนักงานสลากฯส่งหนังสือตอบปฏิเสธกลับไปให้ กสทช.เกี่ยวกับการจัดพิมพ์คูปองทีวีดิจิตอล เนื่องจากเงื่อนไขเวลากระชั้นชิดเกินไป อีกทั้ง ต้องจัดบรรจุดซองด้วย แต่สำนักงานสลากฯไม่มีเครื่องบรรจุซอง ต้องจัดหาเครื่องบรรจุซองจากภายนอกเพิ่มเติม ซึ่งไม่สามารถจัดหาได้ทันที ติดเงื่อนไขระเบียบจัดซื้อจัดจ้างของกรมบัญชีกลางและต้องผ่านขั้นตอนพิจารณาของคณะกรรมการสลากฯอีกด้วย ทำให้ไม่สามารถพิมพ์ได้ทันตามที่กำหนดไว้



+++หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลง "สถานการณ์หนี้บัตรเครดิตของไทย" ก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ภาวะหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 2 น่าเป็นห่วงมาก เพราะสถานการณ์ผิดนัดชำระหนี้พุ่งแตะ1.28 หมื่นล้านบาท หรือกว่าร้อยละ50.5ขณะที่ยอดหนี้บัตรเครดิตค้างจ่ายเกิน 3 เดือน พุ่งแตะร้อยละ 28.4  ขึ้นไปอยู่ที่ 7,497 ล้านบาท



+++ไชน่าโมบายล์ ยักษ์ใหญ่ในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมจากจีน ประกาศผนึกพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ร่วมกับทรู คอร์ปอเรชั่นอย่างเป็นทางการ ถือเป็นบิ๊กดีลกว่า2.86 หมื่นล้านบาท เพราะจะทำให้ทรูกลับมามีสถานะที่แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะเปิดศึกใหญ่ในธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมได้อีกครั้งเวลา 13.30 น. ที่อาคารทรู รัชดาฯ



+++ศูนย์วิจัยทองคำ "แถลงผลดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำและบทวิจัยราคาทองคำประจำเดือน ก.ย. 2557".ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะรายงานผลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ประจำเดือน ส.ค. 2557

ข่าวทั้งหมด

X