หลังจากที่พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) พร้อมด้วยพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง เพื่อสอบปากคำพ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรองผู้กำกับการตำรวจสันติบาลและประธานที่ปรึกษาบริษัทตลาดใหม่ดอนเมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีกรรโชกทรัพย์
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ เปิดเผยว่า พ.ต.ท.สันธนะ ในฐานะผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธในทุกข้อหา ขณะนี้มีการแจ้งจับแล้ว 9 คดี แต่ออกหมายจับ 8 คดี โดยทั้ง 8 คดีล้วนเป็นคดีกรรโชกทรัพย์ พฤติการณ์ของคดีเหมือนกันทุกคดีคือพ.ต.ท.สันธนะ มีการเรียกเก็บเงินจากผู้เสียหายที่ขายของและอาศัยอยู่บริเวณรอบตลาดใหม่ดอนเมือง ต่างกันแค่วิธีการและค่าเรียกเก็บที่ไม่เท่ากัน ส่วนรายละเอียดอื่นๆที่มากกว่านี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจาก จะกระทบต่อรูปคดีและการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทั้งนี้ผู้เสียหายที่มาแจ้งความร้องทุกข์ทั้ง 8 คดี ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่า มีการข่มขู่คุกคามจากผู้ไม่หวังดี หลังเข้าให้ปากคำและร้องทุกข์ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปคุ้มครองและอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าผู้คุกคามคือใคร ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดผู้เสียหายและการคุกคามมากกว่านี้ได้ ส่วนขณะนี้กำลังเรียกพยานผู้เสียหายใน 9 คดีนี้มาสอบเพิ่มอยู่ และเชื่อว่าจากนี้คงจะมีผู้เสียหายรายอื่นๆ มาแจ้งความเพิ่มด้วย
ส่วนขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำเพิ่ม และวันนี้จะให้ผู้ต้องหา ค้างคืนที่สน.ดอนเมืองก่อน ยืนยันว่าการค้างคืนจะไม่ได้รับเอกสิทธิพิเศษใดๆ ขณะที่ผู้ต้องหาไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ ยืนยันว่า ทำทุกอย่างตามขั้นตอน และจะฝากขังในวันพรุ่งนี้ และยังตอบไม่ได้ว่าจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่ ต้องพิจารณาอีกครั้ง ขึ้นกับสภาพแวดล้อมและปัจจัยต่างๆ รวมถึงการพิจารณาว่าหากปล่อยตัวแล้ว ผู้ต้องหาจะเข้าไปทำการใดที่กระทบต่อรูปคดีหรือไม่ หากอยากประกันตัว ได้ตีราคาประกันตัวอยู่ที่ 100,000 บาทต่อคดี รวม 8 คดี จึงมีมูลค่า 800,000 บาท ทั้งนี้ ยังไม่มีการแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติมกับผู้ต้องหา โดยกำลังสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานต่อไป หากพบว่ามีความผิดใดเพิ่มก็ต้องดำเนินการ
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ ยืนยันว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่เป็นการจับกุม ไม่ใช่การมอบตัวเองของผู้ต้องหา พร้อมชี้แจงว่า การยื่นคำร้องก็ได้ยื่นพร้อมกันทั้ง 8 หมาย ทั้งมีผู้เสียหายกล่าวร้องทุกข์ชัดเจน ไม่ใช่ที่ผู้ต้องหาบอกว่ายื่นทีละหมาย และไม่มีผู้ร้องทุกข์ แต่กลับออกหมายจับ ส่วนอัตราโทษในคดีกรรโชกทรัพย์ ไม่ขอเอ่ยถึง เพราะเป็นหน้าที่ของศาลที่จะวินิจฉัยเอง ยืนยันว่าการมี 8 หมายจับที่ต่างเหตุการณ์กันจะไม่มีปัญหาเมื่อส่งฟ้องศาล เพราะอัยการสามารถใช้ดุลยพินิจจัดการได้ ทั้งนี้จะประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ในการจัดการเรื่องการฟอกเงิน ส่วนผู้ต้องหารายอื่นที่ถูกออกหมายจับ ยังไม่มีใครเข้ามอบตัว โดยอยู่ระหว่างการติดตาม
ขณะที่ การพาดพิงถึงองค์กรตำรวจของพ.ต.ท.สันธนะ ผู้ต้องหา กำลังให้ฝ่ายกฎหมายดูว่าทำให้ชื่อเสียงองค์กรเสียหายหรือไม่ ถ้าเสียหายต้องดำเนินคดี ส่วนการกล่าวพาดพิงถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นดุลยพินิจของผบ.ตร.ว่าจะฟ้องกลับหรือไม่
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร