นายกฯย้ำในรายการศาสตร์พระราชา เน้นปรับภาคเกษตรกรรม รับวันพืชมงคล

11 พฤษภาคม 2561, 21:18น.


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ถึงวันจันทร์ที่ 14 พฤษภาคม ศกนี้  จะมีพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง สำหรับเมืองไทยของเราที่เป็น “ชาติเกษตรกรรม”  ซึ่งสะท้อนถึงความผูกพันอันใกล้ชิด ระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทยนอกจากนี้ “วันพืชมงคล” ถือเป็น “วันเกษตรกร” ประจำปีอีกด้วย



ขณะที่สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยรายงานว่า ครึ่งปีแรก ประเทศไทยครองแชมป์ส่งออกข้าวได้เป็นอันดับ 1 ของโลก โดยส่งออกข้าวได้กว่า 4.99 ล้านตัน และกรมการค้าต่างประเทศรายงานว่า ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกข้าวไทยในปีนี้ “เพิ่มขึ้น” จาก 9.5 ล้านตัน เป็น 10 ล้านตัน เป็นผลให้ราคาข้าวไทยปรับตัว “สูงขึ้น” อย่างต่อเนื่อง และข้าวหอมมะลิราคายังคงอยู่ในระดับสูง ที่ผ่านมา เราชนะการประมูลขายข้าว “แบบรัฐต่อรัฐ” ของฟิลิปปินส์ ปริมาณ 120,000 ตัน  และยังสามารถชนะการประมูลของอินโดนีเซียได้อีกกว่า 200,000 ตัน  รวมทั้ง เรายังจะมีการส่งมอบข้าวให้กับจีนแบบรัฐต่อรัฐ งวดที่ 5 อีกกว่า 100,000 ตัน



นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวถึง การลงพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ และ จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาความ เดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ สำหรับการประชุมผู้แทนองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้บริหารท้องถิ่น และเกษตรกร กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 หรือกลุ่มจังหวัด “นครชัยบุรินทร์, นครราชสีมา, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์” นั้น  ก็ทำให้คณะรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลเชิงลึก ได้เห็นศักยภาพของกลุ่มจังหวัดนี้ “ทั้งหมด” ซึ่งจะถูกนำมาพิจารณาเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติต่อไป



รวมทั้งได้ไปตรวจเยี่ยมความพร้อมของประเทศไทย สำหรับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก สนามที่ 15 รายการ PTT Thailand Grand Prix ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ช่วง 5 - 7 ตุลาคมนี้ คาดว่าจะได้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม กว่า 2 แสนคน นอกจากนี้ จะมีการถ่ายทอดผ่านช่องกีฬาชั้นนำ กว่า 200 ช่อง ใน 207 ประเทศ สู่สายตาชาวโลก กว่า 800 ล้านคู่ จะเกิดผลดีทางเศรษฐกิจ อาทิข้อมูลจากการจัดการแข่งขัน ในรายการเดียวกันนี้ที่เมืองเซปัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีรายได้ “โดยตรง” จากผู้เข้าชมชาวต่างชาติ และจากกิจกรรมต่อเนื่อง ราว 1,200 ล้านบาท  รายได้ “โดยอ้อม” มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเมืองรอง เมืองใกล้เคียง อีกกว่า 4,300 ล้านบาท เพื่อรองรับมหกรรมกีฬาครั้งนี้รัฐบาลช่วยสนับสนุนความพร้อม ในการปรับปรุงท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ทั้งขยายทางวิ่ง และเพิ่มอาคารที่พักผู้โดยสาร ให้เหมาะสมต่อไป



ภาคส่วนต่างๆ ก็จะต้องปรับตัวนะครับ ทั้งร้านอาหาร, ที่พัก - โฮมสเตย์, การเดินทาง, การท่องเที่ยว, สินค้าชุมชน - ของที่ระลึก รวมไปถึงการบริหารจัดการในพื้นที่ การจราจร  การอำนวยความสะดวก การรักษาความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และการเดินทาง เป็นต้น ต้องช่วยกันคิดให้เป็นระบบ ช่วยกันทำอย่างมีแบบแผน และเป็นสากลโดยเฉพาะการเป็นเจ้าภาพ เป็นเจ้าบ้าน ที่ดีด้วยนะครับ ทั้งนี้การที่รัฐบาลจะ พิจารณาสนับสนุนกิจกรรมใดๆนั้น ก็ต้องดูศักยภาพ ดูความพร้อมของพื้นที่อีกด้วย



ช่วงสุดท้าย นายกได้ฝากบทกลอนถึงพี่น้องประชาชน เพื่อเป็นหลักคิด ในการร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองอันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน ไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน



ใช่พร่ำบ่น  ให้คนไทย  ไร้กฎเกณฑ์ ทุกโครงการ  ปฏิรูป ช่วยสานต่อ   เหมือนถักทอ  เส้นไหม  ให้เป็นผืน



ทั้งย้อมสี  ลวดลาย  ให้กลมกลืน  ไทยต้องตื่น  รู้เท่าทัน  อันตราย รัฐบาล คสช.  ทำทุกอย่าง  คงไม่ไหว



ไทยช่วยไทย  ประชารัฐ  เร่งขวนขวาย พ้นยากจน  ทนลำบาก  ยากใจกาย สู่เป้าหมาย  ปลายทาง  ไทยยั่งยืน



 



อ่านต่อ http://www.thaigov.go.th/news/contents/details/12196

ข่าวทั้งหมด

X