การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ในวันนี้ที่มีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. ทำหน้าที่เป็นประธานมีวาระพิจารณาเรื่องด่วน 1 เรื่อง คือ การให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) วันนี้เป็นขั้นตอนการพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกกต.
นายสุรชัย กล่าวว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ประชุมสนช. ไม่เห็นชอบบุคคลทั้ง 7 คนที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกกต. ทำให้รายชื่อชุดดังกล่าวตกไปและต้องเริ่มกระบวนการสรรหาใหม่ ในฐานะที่สนช.ปฏิบัติหน้าที่แทนวุฒิสภา(ส.ว.) ซึ่งส.ว.มีหน้าที่คัดเลือกบุคคลผู้สมควรได้รับเลือกเป็นกกต. ดังนั้นสนช.จึงทำหน้าที่นี้และขอให้ที่ประชุมแต่งตั้งคณะกรรมาธิการสามัญฯ
จากนั้นนายสมชาย แสวงการ สมาชิกสนช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(วิปสนช.) เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญฯ จำนวน 17 คน มีเวลาทำงาน 60 วัน แต่กรอบเวลา60 วัน ขัดต่อระเบียบข้อบังคับการประชุมสนช.ที่กำหนดให้ใช้เวลาไม่เกิน 45 วัน ทำให้ที่ประชุม ต้องลงมติ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 171 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี และงดออกเสียง 3 เสียง เห็นชอบให้งดใช้ข้อบังคับการประชุม เพื่อให้คณะกรรมาธิการสามัญฯ มีระยะเวลาตรวจสอบประวัติในกรอบเวลา 60 วัน
รายชื่อบุคคลที่อยู่ในคณะกรรมาธิการสามัญฯ เช่น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ น้องชายพล.อ.ประวิตร, พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์, นายสมชาย แสวงการ และพล.อ.ไพชยนต์ ค้าทันเจริญ เป็นต้น และในช่วงบ่ายนี้ จะเริ่มประชุมคณะกรรมาธิการสามัญฯนัดแรก ส่วนบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น 7 ว่าที่กกต.ชุดใหม่ ที่กำลังอยู่ในชั้นตรวจสอบประวัติของสนช.มีที่มาจากสองทาง คือ จากมติที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาจำนวน 2 คน และจากคณะกรรมการสรรหาฯ จำนวน 5 คน วิปสนช.คาดว่าสนช.จะลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบได้ภายในวันที่ 12 หรือ 13 กรกฎาคมนี้
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร