+++สภาพอากาศในช่วงนี้ ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย ศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานคร ระบุว่า เมื่อคืนนี้ มีฝนตกหนักแถบกาญจนบุรี เช้ามืดนี้ยังคงมีฝนตกแถบภาคเหนือ
+++ส่วนเหตุฝนตกหนัก เสาไฟฟ้าล้ม หลายต้นที่จ.เชียงราย บ้านเรือน ประชาชนเสียหาย 5 อำเภอ 4 ตำบล 7 หมู่บ้าน คือ อ.เมือง อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่ลาว และ อ.เวียงชัย จังหวัด เตือนชาวบ้านให้เฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ถึงวันที่ 14 พ.ค. ในส่วนของ อ.เมือง มีเสาไฟฟ้าล้ม 6-7 ต้น ล้มทับรถเสียหาย 3 คัน และกีดขวางการจราจร มีไฟฟ้าดับที่เทศบาลเมืองเชียงราย สภาพอากาศร้อนมาก จึงได้แจ้งเตือนว่าถ้าร้อนมาก เวลาฝนตก ก็จะตกหนัก และอาจสร้างความเสียหายมากเช่นกัน
+++เช่นเดียวกับที่ จ.ขอนแก่น อ.เมือง มีฝนตกตั้งแต่ 16.00น.พายุลมแรงฟ้าร้อง ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 20-30หลัง เทศบาลนครขอนแก่น แจ้งข่าวพายุและได้เตือนประชาชนให้เฝ้าระวัง
+++นอกจากนี้ ยังมีฝนตกกระหน่ำอย่างหนักที่จังหวัดบุรีรัมย์ ต่อเนื่องนานกว่า2ชั่วโมง ทำให้น้ำเอ่อท่วมขังถนนหลายสาย ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์สูง30 - 50 เซนติเมตร เช่น ถนนแสนสุข ถนนอินจันทร์ณรงค์ และถนนทางเข้าสถานีขนส่งผู้โดยสาร
+++ที่จ.สุรินทร์ มีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันนานกว่า1ชั่วโมง ส่งผลให้โรงพยาบาลกาบเชิง สถานที่ราชการ บ้านเรือนของ ประชาชนแทบทุกอำเภอได้รับความเสียหาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย พายุฝนลมแรง และฝนตกหนักทำให้หอบเต็นท์ปลิวร่มของร้านค้าในภายในตลาดสดเทศบาลเมืองสุรินทร์จนพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาเดินจับจ่ายซื้อสินค้าต่างวิ่งหนีไปหลบตามจุดต่างๆ จ้าละหวั่น ได้รับความเสียหายเกือบทั้งตลาด
+++ชัยชนะของดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด กลับมาดำรงตำแหน่งนายกฯอีกครั้ง พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับดร.มหาเธร์ ที่เป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้ง จากนี้ต้องเตรียมพบพูดคุยกับรมว.กลาโหม มาเลเซียคนใหม่ และรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ของมาเลเซียเกี่ยวกับพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ คิดว่า ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง เชื่อการเปลี่ยนตัวผู้นำไม่น่าจะทำให้เกิดปัญหาอะไรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทย
+++พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ มั่นใจว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดเข้ามาบริหารประเทศมาเลเซีย จะไม่กระทบต่อการพูดคุยสันติสุข เพราะเป็นนโยบายระหว่างประเทศ ใครมาดำรงตำแหน่งก็ต้องให้การสนับสนุนตามหลักสากลในแนวทางสันติวิธี
+++ดร.ตายูดิน อุสมาน อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหา วิทยาลัยราชภัฏยะลา กล่าวว่า ชาวมาเลเซียต้องการการเปลี่ยนแปลง เพราะพรรครัฐบาลมีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่น เรื่องนี้อาจมีผลกระทบการพูดคุยสันติภาพในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง อาจมีการเปลี่ยนคนเจรจา หรือกำหนดจุดเริ่มต้นใหม่ แต่การเจรจาสันติภาพจะต้องดำเนินการต่อ และรอดูว่า ดร.มหาเธร์ จะแถลงนโยบายอย่างไร เชื่อว่า การสนับสนุนของมาเลเซีย ยังคงเหมือนเดิม เพราะมาเลเซียต้องการให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสงบสุข เนื่องจากมีผลกระทบกับประเทศมาเลเซียด้วย
+++สถานการณ์ในพื้นที่อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ยังคงติดตามเหตุคนร้าย ลอบวางระเบิดแสวงเครื่องใส่ไว้ในถังแก๊สหุ้งต้ม หนัก 50 กก. ฝังใต้ท่อกลางถนน ในหมู่บ้านกูมุง ม.2 ต.ช้างเผือก ทำให้รถจี๊ปหุ้มเกราะของตำรวจ อ.จะแนะ เสียหาย มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 5 นาย มีอาการหูอื้อ ศรีษะแตก มีบาดแผลที่จมูก แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึก 1 เมตรกว้าง 1 เมตร ร.ต.ท.อิทธิพล มาลิกุล รองสารวัตรสอบสวน สภ.จะแนะ รับแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นช่วงที่ร.ต.ท.สุทัศน์ เงินมาก รอง สว.ป.สภ.จะแนะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังเดินทางกลับสภ.จะแนะ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวน แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่ลอบนำไปวางไว้ใต้ท่อลอดกลางถนน เจ้าหน้าที่ เชื่อว่า เป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน
+++ที่ประชุมสภานิติบัญัติแห่งชาติ(สนช.) วันนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และคุณธรรมจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ทั้ง 7 คน รวม 17 คน มีเวลา 60 วันในการทำงานว่ามีความประพฤติเหมาะสม คุณสมบัติครบถ้วนหรือมีปัญหาใดหรือไม่ ก่อนจะเสนอรายงานให้ที่ประชุมสนช.หารือและลงมติลับในวันที่ 12 หรือ 13 ก.ค.
+++แผนยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ต้องการเพิ่มนักรบไซเบอร์ 1,000 คน เพราะพบเนื้อหาหรือคนกลุ่มบุคคลในโลกออนไลน์ต้องจับตาเป็นพิเศษโดยเฉพาะ 22 พฤษภาคมนี้ จะครบ 4 ปี คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวทางการเมืองจะย้ายมาอยู่ในโลกออนไลน์มากกว่าบนท้องถนน ปัจจุบันโลกของไซเบอร์มีอินเตอร์เน็ต ออนไลน์ สามารถสื่อสารได้ทุกมิติ ทุกสาขาอาชีพ มีทั้งแง่บวก แง่ลบ จำเป็นต้องมีกฎหมายและหน่วยงานที่มอนิเตอร์ประเด็นปัญหาที่เกิดจากการละเมิดของการใช้คอมพิวเตอร์ ตอนนี้มีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่ปฏิบัติงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายความมั่นคง และ กสทช. มีหน่วยงานหนึ่งที่ชื่อไทยเซิร์ต ที่คอยให้การสนับสนุนข้อมูลเชิงสายวิชาการ ให้ความรู้ ส่วนเรื่องกฎหมาย พ.ร.บ.คอมฯ และกฎหมายละเมิดบุคคลที่สามคาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2561 จำเป็นต้องสร้างระบบและคนที่เชี่ยวชาญในระบบไซเบอร์ วางเป้าไว้ว่าใน 5 ปี (2560-2564) ต้องการถึง 4,500-5,000 คน เป็นเรื่องเร่งด่วน มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ส่วนเบื้องต้น ต้องผลิตนักรบไซเบอร์ให้ได้อย่างน้อย 200 คน โดยใช้งบประมาณจำนวน 350 ล้านบาท กลางเดือนมิ.ย.จะเริ่มจัดคนเข้าหลักสูตรได้ และสามารถให้ 200 คนนี้ บรรลุวัตถุประสงค์ในเวลาไม่เกิน 3 ปี
CR:รัฐบาลไทย