*กรมชลฯสรุปปัญหา4ลุ่มน้ำสำคัญจัดทำยุทธศาสตร์เน้นแก้พื้นที่จุดเสี่ยง*

หลังจากงานเสวนาแผนการบริหารจัดการน้ำที่มีประชาชนในพื้นที่ 4 ลุ่มแม่น้ำจาก ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ลุ่มน้ำท่าจีน ลุ่มน้ำสะแกกรัง และลุ่มน้ำป่าสัก เข้าร่วมเสวนาประมาณ 300 คน ที่จ.พระนครศรีอยุธยา กรมชลประทาน จะรวบรวมข้อมูลต่างๆที่ได้จัดทำเป็นแผนงานและยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป โดยจะดำเนินการกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงมากก่อน และจะประสานงานร่วมกับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหามาตรการรับมือต่อไป

จากการฟังสัมมนาพบว่าในแต่ละพื้นที่มีปัญหาต่างกันไป  ในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก มักประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ราบลุ่มและต่ำ ผนวกกับภาวะน้ำหลากจากลพบุรี ทำให้เกิดน้ำท่วมทุกปีในบริเวณจ.สระบุรีและพระนครศรีอยุธยา รวมทั้งไม่มีคันกั้นน้ำ ทำให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร และเมื่อถึงฤดูแล้ง ก็มีน้ำต้นทุนใช้ในการเกษตรน้อย ทำให้ไม่สามารถทำการเกษตรได้ โดยประชาชนอยากให้รัฐบาลใส่ใจปัญหานี้อย่างจริงจัง และให้กรมชลประทานเข้ามาดูแลพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้รอดจากภัยพิบัติ

ส่วนลุ่มน้ำสะแกกรัง มักประสบภาวะน้ำตื้นเขิน ทำให้เมื่อน้ำมาก น้ำจะไหลท่วมพื้นที่เกษตร จนเกิดภาวะน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี ส่วนฤดูแล้งก็มักประสบภาวะขาดแคลนน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ทำให้ไม่สามารถผลิตการเกษตรได้  แนวทางแก้ไข ประชาชนเรียกร้องให้มีการสร้างเขื่อนแม่วงก์ และขอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยอย่างจริงจัง โดยต้องการให้รัฐบาลขุดลอกคูคลองมากขึ้น เพื่อให้น้ำระบายได้คล่องตัว และวางแผนให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่รู้ถึงสถานการณ์น้ำและการใช้น้ำร่วมกันให้มีประโยชน์

ขณะที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและท่าจีน ประสบภาวะคล้ายกัน คือ ต้องพึ่งพาน้ำต้นทุนจากลุ่มน้ำอื่น เนื่องจากไม่มีแหล่งต้นน้ำในพื้นที่ โดยทั้ง 2 ลุ่มน้ำนี้นับได้ว่าเป็นพื้นที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากมีพื้นที่คลอบคลุมหลายจังหวัด  รวมทั้งมักประสบกับคุณภาพน้ำที่ไม่ได้มาตรฐานและผักตบชวาที่มีมาก รวมไปถึงปัญหาการไม่มีเขื่อนเก็บน้ำเพียงพอ จึงทำให้ประสบกับภัยแล้งและน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ส่วนแนวทางแก้ไข ประชาชนในพื้นที่เสนอให้รัฐบาลเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง และรับฟังประชาชนมากกว่านี้ และขุดลอกคูคลองแม่น้ำต่างๆให้ไหลเชื่อมต่อกันมากขึ้น รวมไปถึงขอความร่วมมือจากจังหวัดต่างๆให้ร่วมกันทำงาน เนื่องจากลุ่มน้ำทั้ง2มีพื้นที่ติดหลายจังหวัด หากร่วมกันทำงานได้ จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาดีขึ้น ภาคประชาชนยังเสนอให้ออกกฎหมายบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมและให้รัฐบาลคอยประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำตลอดด้วย

ธีรวัฒน์