การลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำและการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เขื่อนอเนกประสงค์ ที่นอกจากจะส่งน้ำไปใช้เพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภคแล้วยังนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งนายวนิช แสงสุวรรณ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า การผลิตไฟฟ้าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลักๆอยู่ที่ โรงไฟฟ้าน้ำพอง ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ710 เมกะวัตต์ ส่วนโรงไฟฟ้าอื่นๆมีกำลังการผลิต คิดรวมเป็น 747.76 เมกะวัตต์ แต่ความต้องการใช้ไฟของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีมากถึง3,000เมกะวัตต์ จึงต้องมีการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าจากประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประมาณ 1,300เมกะวัตต์ ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าน้ำพอง ตามแผนการดำเนินงาน จะปลดระวางในปี2563 ส่วนสัญญาการซื้อก๊าซระหว่าง กฟผ.กับ บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน จะหมดในปี2564 แต่หลังจากที่ปตท.สำรวจพบว่าก๊าซธรรมชาติ ยังเพียงพอไปจนถึงปี2567 คาดว่า ในอนาคต ทั้ง2หน่วยงานจะมีการหารือต่อสัญญาการส่งก๊าซออกไปจนถึงปี2567 เพราะจากการตรวจสอบสภาพโรงไฟฟ้าน้ำพอง พบว่า ยังอยู่ในสภาพใช้งานได้ ส่วนในระยะยาว จะมีการสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ทดแทนโรงไฟฟ้าน้ำพองหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการสำรวจก๊าซธรรมชาติ ทำให้หน่วยงานต่างๆเร่งสำรวจแหล่งก๊าซในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพิ่มเติม เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดหาก๊าซธรรมชาติรองรับความต้องการในอนาคต
ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ล่าสุด มีปริมาณน้ำประมาณ 841 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ34 ของปริมาณน้ำที่เขื่อนจุได้ แม้ว่าหลายฝ่ายจะเกรงว่าในปีนี้ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ค่อนข้างมั่นใจว่า น้ำจะเพียงพอต่อการใช้ เพราะ ตอนนี้เพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งตามปกติ น้ำจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายนถึงตุลาคม
บุศรินทร์