วันนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) จัดงาน EGAT INNOVATION SHOWCASE 2018 นำเสนอนวัตกรรมพลังงานเพื่ออนาคต ที่ช่วยเสริมศักยภาพความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ กฟผ. ประธานในพิธีเปิดงาน ระบุว่า ในยุค Energy 4.0 ที่ต้องปรับตัวให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี กฟผ. จึงส่งเสริมการคิดค้นนวัตกรรม และงานวิจัยที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและเสริมความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และยังมุ่งมั่นดูแลสิ่งแวดล้อมและชุมชน วิจัยและพัฒนาผลพลอยได้จากการผลิตไฟฟ้าให้เป็นผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและรายได้ให้กับชุมชน เช่นการนำเถ้าหนักจากการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะมาผลิตเป็นบล็อกก่อผนังมวลเบาซึ่งมีความเป็นฉนวนความร้อนดีกว่าคอนกรีตบล็อกทั่วไป โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการทางเคมีหรือ ให้ความร้อนจึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและมีต้นทุนต่ำ การสกัดกรดฮิวมิกจากลีโอนาร์ไดต์ที่ได้จากกระบวนการทำเหมือง ซึ่งมีธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืชจำนวนมาก นำมาผสมกับวัสดุเหลือใช้ต่างๆ เช่น มูลไก่ กากส่าเหล้า และกากตะกอนอ้อย กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ หรือสารปรับปรุงคุณภาพดินให้กับวิสาหกิจชุมชนนำไปใช้
ด้านนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการฝ่ายนโยบายและแผน ระบุว่า กฟผ. จัดงบประมาณสำหรับการคิดค้น วิจัย พัฒนานวัตกรรมต่างๆ เกือบ 1 พันล้านบาท เพื่อให้ประเทศไทยมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเอง ไม่ต้องนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมทั้งเผยแพร่องค์ความรู้ พัฒนา ต่อยอด กับองค์กรที่มีส่วนได้ส่วนเสียจากการดำเนินงานของกฟผ. พร้อม เร่งพัฒนานวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานหมุนเวียน รักษาสิ่งแวดล้อมต่อไป
สำหรับบรรยากาศงานในวันนี้ มีการนำนวัตกรรมมาจัดแสดงผลงานหลายชนิด เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าขณะจ่ายไฟ ป้องกันการลัดวงจรของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากความสกปรกบนลูกถ้วย, การพัฒนาซอฟท์แวร์ และแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ต่างๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า และระบบส่งในยุคดิจิตอล ที่ช่วยลดความไม่เสถียรของระบบไฟฟ้า ซึ่งมักเกิดขึ้นกับสายส่งที่มีระยะทางไกล เช่น ในพื้นที่ภาคใต้
ปภาดา พูลสุข ผสข.