การเดินทางเข้าพบอัยการสูงสุดของนายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในคดีทุจริตโครงการบ้านเอื้ออาทร นายวัฒนา กล่าวก่อนเดินทางเข้าพบอัยการสูงสุด ว่าเดินทางมาตามนัด เนื่องจากคดีนี้ค้างอยู่นานหลายปี ไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน เป็นเรื่องดีที่มีการส่งฟ้องเพื่อจะได้ข้อยุติ พร้อมที่จะให้คดีเข้าสู่ศาล แต่สิ่งสำคัญคือต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมของกฎหมาย รวมถึงในวันนี้ ก็ได้เตรียมหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงิน 2,000,000 บาท ตามที่ศาลเคยประเมินไว้ในคดีอื่น เพื่อขอประกันตัวล่วงหน้า แต่ก็ไม่ทราบว่าศาลจะเรียกวงเงินเท่าใดหรือใช้หลักทรัพย์อย่างไรบ้าง และจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล นายวัฒนา ยืนยันว่า คดีนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ที่ถูกข่มขู่มาตั้งแต่ปี 2558 โดยหวังทำลายเรื่องทางการเมือง
นายวัฒนา บอกว่าส่วนตัวไม่มีความเชื่อถือต่อกระบวนการยุติธรรมขั้นต้นทั้งการทำงานของ ป.ป.ช.และอัยการ แต่ก็ยังหวังพึ่งการพิจารณาของศาลฎีกาฯ ยืนยันว่าจะสู้คดีจนถึงที่สุดไม่หนีคดี เพราะสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น รวมทั้งประชาชนมีความต้องการโครงการนี้ และโครงการนี้ก็ขายหมด รัฐจึงไม่มีความเสียหายใดๆ รวมทั้งศาลปกครองก็ไม่ได้ดำเนินการเรียกค่าเสียหาย จึงยืนยันได้ว่าไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นเลย
กรณีดังกล่าวคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ที่ถูกตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบโครงการทุจริตและพบความผิดปกติ ในโครงการนี้ ก่อนส่งสำนวนทั้งหมดให้ ป.ป.ช. พิจารณาต่อ เนื่องจากหมดวาระหน้าที่ โดย ป.ป.ช. ก็ได้ชี้มูลความผิดในข้อหาจัดทำทีโออาร์ใหม่เอื้อประโยชน์เอกชน เรียกรับประโยชน์ และมีการรับประโยชน์ ทำให้รัฐเสียหาย มูลค่า 2,500 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากอัยการยังเห็นว่าสำนวนมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอัยการกับ ป.ป.ช.ใช้เวลากว่า 10 ปี ก่อนที่อัยการจะนำตัวนายวัฒนาส่งฟ้องในวันนี้
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม