ประชุมครม.ที่บุรีรัมย์/สปส.ระบุร้องเรียนสถานประกอบการเพิ่มขึ้น/ทรัมป์ไม่ไปอิสราเอล

08 พฤษภาคม 2561, 12:25น.


ในวันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ โดยได้เยี่ยมชมนิทรรศการการดำเนินงานของ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ แนะให้พัฒนาต่อยอดองค์ความรู้ งานวิจัยต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน จากนั้น เป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) ซึ่งนายกรัฐมนตรีชี้แจงในที่ประชุมว่า การเดินทางลงพื้นที่ทุกครั้ง ไม่มีเป้าหมายการเมืองหรือเป้าหมายแฝงอื่นใด แต่ถือเป็นการสื่อสารสองทาง เพื่อการรับรู้ข้อมูล และความต้องการ เพื่อนำมาปรับปรุงโครงการต่าง ๆ ควบคู่กับการวางแผนระยะยาวให้สอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาประเทศโดยรวม เน้นการใช้งบประมาณจังหวัด กลุ่มจังหวัดให้เกิดประสิทธิภาพ ไม่ใช่การทุ่มงบประมาณลงไปในพื้นที่ใดเป็นพิเศษ



ที่ประชุมฯ เสนอโครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงนิทรรศการภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 โครงการก่อสร้างศูนย์รวบรวมตู้คอนเทนเนอร์ และเปลี่ยนโหมดขนส่ง Korat ICD โครงการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการก่อสร้างสนามบินสุรินทร์เพื่อการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว รวมไปถึงการศึกษาแผนแม่บทการพัฒนาเมืองใหม่นครราชสีมา เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1



นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประกันตนแก้ปัญหาเรื่องร้องเรียนของนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้ประกันตน ว่า ในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม มีนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และผู้เกี่ยวข้องในระบบประกันสังคมยื่นเรื่องร้องเรียนเข้ามาทั้งสิ้น 1,392 เรื่อง โดยเรื่องร้องเรียนมากที่สุดคือ การร้องเรียนสถานประกอบการ 679 เรื่อง ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 48.78 คือนายจ้างหักเงินแต่ไม่นำส่ง ส่งไม่ครบ 231 เรื่อง นายจ้างไม่ขึ้นทะเบียน 247 เรื่อง นายจ้างไม่แจ้งลูกจ้างออกจากงาน 62 เรื่อง ซึ่งจากเดือนมกราคม-มีนาคม แก้ปัญหาให้กับผู้ประกันตนแล้ว 1,355 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 97.34



ทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ จะไม่เดินทางไปอิสราเอลในสัปดาห์หน้า เพื่อร่วมพิธีเปิดสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ที่เยรูซาเลม ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ แม้ว่าผู้นำสหรัฐฯ แสดงท่าทีว่าต้องการที่จะไปร่วมงาน ซึ่งคาดว่าอาจเป็นเพราะไม่ต้องการให้ให้เกิดความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น



สำหรับคณะผู้แทนของสหรัฐฯ ที่จะเข้าร่วมงาน ได้แก่นายจอห์น ซัลลิแวน รัฐมนตรีช่วยการต่างประเทศ นายเดวิด ฟรีดแมน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิสราเอล นายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นางอิวังก้า ทรัมป์ ในฐานะ ผู้ช่วยและที่ปรึกษาของประธานาธิบดี กับนายจาเร็ด คุชเนอร์ ในฐานะผู้ช่วยและที่ปรึกษาอาวุโสของประธานาธิบดี และนายเจสัน กรีนบลัตต์ ผู้แทนพิเศษด้านการเจรจาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง



ปิดท้ายที่เรื่องแรงงาน น.ส.แสงเดือน ตั้งธรรมสถิตย์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารด้านปฏิบัติการ เว็บไซต์จ๊อบไทยดอทคอม เปิดเผยว่า 3 สายงานสำคัญที่หุ่นยนต์จะมาช่วยสนับสนุนการทำงานของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ได้แก่ อาชีพด้านบริการ เนื่องจากหุ่นยนต์จะมาช่วยเหลือมนุษย์ให้การทำงานง่ายขึ้นทั้งผู้ให้บริการและลูกค้าที่มาใช้บริการ, อาชีพเฉพาะทาง เช่น ผู้ช่วยแพทย์ เนื่องจากหุ่นยนต์มีความแม่นยำสูง และสามารถทำงานได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเวลาในการทำงาน และ อาชีพให้คำปรึกษา เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีความแม่นยำสูง ช่วยลบข้อผิดพลาดรวมถึงความลำเอียงในบางสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจของมนุษย์



ขณะที่ 3 ทักษะอันเป็นจุดแข็งสำคัญที่ทำให้มนุษย์ยังเหนือกว่าหุ่นยนต์ก็คือ ทักษะทางสังคม (Social Skills) ทักษะทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และ ทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking) ซึ่งต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้โลกการทำงานในอนาคตของทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์สามารถทำงานและอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข



งานที่หุ่นยนต์จะเข้ามาทดแทน มักจะเป็นงานที่มีรูปแบบการทำงานแบบเดิมซ้ำๆ หรือเป็นงานที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์มีความสามารถในการคำนวณข้อมูลที่ซับซ้อนได้รวดเร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์



 

ข่าวทั้งหมด

X