*อธิบดีกรมชลฯ ฟังความเห็นปชช.ลุ่มน้ำสะแกกรัง เจ้าพระยา ป่าสัก ท่าจีน ก่อนยกร่างบริหารจัดการน้ำ*

10 กันยายน 2557, 12:02น.


การบริหารจัดการน้ำ นาย เลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะอนุกรรมการและเลขานุการ คณะอนุกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เปิดเผย ในงานเสวนาแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ป่าสัก ท่าจีน และสะแกกรัง ว่า การบริหารจัดการน้ำต้องฟังประชาชนในพื้นที่ที่รู้ถึงปัญหาและรายละเอียดมากกว่า ทำให้เห็นปัญหาที่ชัดเจน โดยได้รับฟังมาแล้วใน 2 พื้นที่ คือ เชียงรายและพิษณุโลก และจากการรับฟังในครั้งนี้จะนำข้อมูลที่ได้สรุปผล และประสานงานร่วมกับหน่วยงายหรือภาคประชาชน เพื่อนำไปสู่การยกร่างยุทธศาสตร์การบริหารน้ำอีกครั้ง ซึ่งเป็นแผนการป้องกันระยะยาว



ส่วนสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ไม่น่ากังวล โดยน้ำในเขื่อนต่างๆทั้ง เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนภูมิพล ยังอยู่ในภาวะต่ำกว่าปกติ  และได้รับรายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า ปีนี้ฝนจะหมดเดือนกันยายน จึงมองว่าไม่น่ากังวลต่ออุทุกภัย และมองถึงภาวะภัยแล้งในปีหน้าที่อาจจะแล้งมากกว่าปกติ เนื่องจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำมีน้ำน้อย ทำให้การเพาะปลูกในพื้นที่ที่ไม่มีการบริหารจัดการน้ำภายใต้การดูแลของกรมชลประทานอาจมีปัญหา และต้องหารือเพื่อป้องกันภัยแล้งอีกครั้ง



ด้านนาย วิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทรัพยากรน้ำเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด และอยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการน้ำ โดยจะเน้นให้บูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งภาครัฐและประชาชน ซึ่งเชื่อว่าหากประชาชนมีความรู้ในการบริหารน้ำ จะทำให้ปัญหาอทุกภัยลดลง ส่วนสถานการณ์น้ำทั้งจากสุโขทัยและพิษณุโลกทรงตัวแล้ว และไม่น่ากังวล เนื่องจากหากน้ำมาก็เชื่อว่าแม่น้ำเจ้าพระยายังสามารถรับได้ ไม่เกิดภาวะล้นตลิ่ง และหากไม่มีฝนตกหนัก ก็เชื่อว่าปีนี้จะไม่มีปัญหา แต่กังวลถึงภาวะภัยแล้งในปีหน้าที่อาจส่งผลต่อเกษตรกร เนื่องจากปีนี้น้ำน้อยกว่าเกณฑ์



สำหรับ งานเสวนาวันนี้  มีภาคประชาชนเข้าร่วมกว่า 300 คน  โดยแบ่งกลุ่มเสวนาเป็น 4 กลุ่มย่อยตามลุ่มน้ำทั้งสี่ ซึ่งจากการเสวนา ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า การบริหารที่แล้วมาไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีการบูรณาการการทำงาน รวมทั้งมองว่าการแก้ปัญหามักเป็นปลายเหตุ ไม่ใช่การแก้จากต้นเหตุ

ข่าวทั้งหมด

X