สตม.รวบชาวกีนีและแฟนสาวชาวไทย ปลอมบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) แถลงจับชาวต่างชาติสัญชาติกีนีร่วมกับแฟนสาวชาวไทยปลอมบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 5แสนบาท พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(ปป) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 30 เม.ย.2561 กองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (กก.2 บก.สส.สตม.) ได้ร่วมกันจับกุมนายราชีด อาเจย์บาดี ซาลามิ สัญชาติกีนี อายุ 41ปี และ น.ส.ฉันทพัฒน์ เอี่ยมไผ่ สัญชาติไทย อายุ 43ปี ในข้อหา ร่วมกันใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม เนื่องจาก เจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีชายชาวแอฟริกันติดต่อว่าจ้างหญิงไทยเพื่อเดินทางไปต่างประเทศ โดยให้ใช้บัตรเครดิตปลอมที่เตรียมไว้ให้ ใช้รูดซื้อสินค้าบนเครื่องบินของสายการบินต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทน้ำหอม, ครีม, ปากกา และสินค้ายี่ห้อดังต่างๆ ที่มีจำหน่ายบนเครื่องบิน กก.๒ บก.สส.สตม.จึงได้สืบสวน พร้อมทั้งพยานหลักฐานต่างๆ จนทราบว่าชายแอฟริกันดังกล่าวชื่อ นายราชีด พักอาศัยอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ย่าน ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี พักอาศัยอยู่กับ น.ส.ฉันทพัฒน์ แฟนสาวชาวไทย ซึ่งเป็นผู้นำบัตรเครดิตปลอมเดินทางไปกับสายการบินต่างๆเพื่อรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน โดยได้เดินทางกับสายการบินไทเกอร์แอร์ออกไปประเทศสิงคโปร์ และใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้า และเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 30เม.ย.เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนนำหมายค้นศาลจังหวัดนนทบุรี เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายราชีด ในวันที่ 30เม.ย.ทันที

ผลการตรวจค้น พบตัวนายราชีด อยู่ภายในห้อง พร้อมตรวจยึดของกลางเป็นบัตรเครดิตปลอม จำนวน 7ใบ, คอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง, เครื่องแท็บเล็ต 1เครื่อง, ตั๋วเครื่องบินพร้อมบัตรที่นั่งอีกจำนวนมาก, นิตยสารรายการสินค้าบนเครื่องบิน, ใบสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งยังพบซองใส่ทอง ใบเสร็จซื้อทองรูปพรรณ และเอกสารต่างๆ จำนวนมาก

จากการตรวจสอบเครื่องคอมพิวเตอร์พบว่า นายราชีด ได้สั่งซื้อข้อมูลบัตรเครดิตจากเว็ปไซด์เถื่อน โดยชำระค่าข้อมูลเป็นเงินดิจิตัล หรือ Bitcoin เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ โดยนายราชีด ให้การยอมรับว่า ได้ซื้อข้อมูลบัตรเครดิตมาจากเว็ปไซด์เถื่อน และชำระเงินเป็นเงินสกุล Bitcoin จากนั้นจะส่งให้เพื่อนชาวแอฟริกัน ผลิตบัตรเครดิตปลอมและใส่ข้อมูลดังกล่าว ซึ่งได้ทำการแก้ไขข้อมูลชื่อเจ้าของบัญชี ให้เป็นชื่อของหญิงไทยที่ใช้บัตร เพื่อให้สลิปที่ออกมาจากเครื่องรูดบัตรปรากฎชื่อของหญิงไทยแทน ทำให้ไม่เป็นที่สงสัย จากนั้นจะนำสินค้าที่ได้ไปขายให้กับตามร้านค้าต่างๆในราคาถูกกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ นายราชีด ยังได้นำข้อมูลบัตรเครดิตไปใช้ในการซื้อตั๋วเครื่องบิน, ซื้อสินค้าต่างๆ ตามเว็ปไซด์ขายสินค้าต่างๆอีกด้วย

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่อีกชุด ได้นำกำลังไปดักรอ น.ส.ฉันทพัฒน์ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ จากการตรวจค้นพบ บัตรเครดิตปลอมจำนวน 4ใบ และน้ำหอมยี่ห้อต่างๆ ที่ได้จากการใช้บัตรรูดซื้อบนเครื่องบิน จำนวน 10กล่อง สอบถาม น.ส.ฉันทพัฒน์ ให้การยอมรับว่า บัตรเครดิตดังกล่าวเป็นบัตรเครดิตปลอม ที่ได้รับมาจาก นายราชีด แฟนหนุ่มชาวกีนี และได้โดยสารเครื่องบินไปเพื่อใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าบนเครื่องบิน จากนั้นนายราชีด จะเอาไปขายให้ร้านค้าต่างๆ และจะให้ส่วนแบ่งประมาณ 10,000บาทต่อเที่ยว เบื้องต้นจึงได้ทำการจับกุมนายราชีด ส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน และ จับกุม น.ส.ฉันทพัฒน์ ส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนสภ.สุวรรณภูมิ และหลังจากนี้ จะสืบสวนขยายผล ผู้ที่ทำบัตรเครดิตปลอมให้นายราชีด และตรวจสอบสายการบินต่างๆ ว่า มี น.ส.ฉันทพัฒน์ หรือ หญิงไทย ซื้อสินค้าบนเครื่องบินโดยใช้บัตรเครดิตปลอมอีกหรือไม่ เพื่อจะได้สืบสวนจับกุมกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมแบบนี้ต่อไป

นายราชีด อาศัยอยู่ในประเทศไทยมาประมาณ 2ปี คบกับแฟนสาวชาวไทยมาประมาณ 1ปีครึ่ง เดินทางมากกว่า 36เที่ยวบิน แนะนำสายการบินสังเกตบัตรเครดิตปลอม เพราะจะมีลักษณะไม่คมชัด หรือใช้แบล็กไลต์ ส่องดูสัญลักษณ์บนบัตร หรือโทรตรวจสอบกับเจ้าของบัตร และเจ้าของเครื่องรูดบัตร เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวง

ผู้สื่อข่าว:วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์