กรณีอดีต ส.ส. เดินทางไปหานายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯในต่างประเทศ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง กล่าวว่า ต้องดูว่าเข้าลักษณะการครอบงำชี้นำโดยบุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เพราะตามกฏหมายพรรคการเมือง ไม่ให้มีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว รวมถึงการนำเงินจากต่างประเทศเข้าพรรคก็ไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ก่อน หากพบว่าผิดจริงตามกฎหมายกำหนดโทษให้ต้องยุบพรรคและถูกตัดสิทธิทางการเมือง ส่วนเรื่องที่เริ่มมีการออกรายการโทรทัศน์ลักษณะการหาเสียงเพื่อหวังผลของการเลือกตั้ง กกต.ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะไม่อยู่ในช่วงของการควบคุมการหาเสียง จึงเป็นเรื่องของเสรีภาพ การแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็ต้องระมัดระวังว่าอย่าไปละเมิดผู้อื่น
ส่วนการยืนยันสมาชิกของพรรคการเมืองเดิมต้องรายงานจำนวนสมาชิกพรรคต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองภายใน 30 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 พ.ค. ตามที่ กกต. ได้ออกระเบียบไปและเมื่อรายงานมาแล้ว กกต.ก็จะตรวจสอบความถูกต้องทางธุรการ หากไม่ถูกต้องก็จะมีการแจ้งเพื่อให้แก้ไข แต่ถ้าไม่แจ้งในกำหนดเวลาก็มีโทษ แต่ไม่ถึงกับให้พรรคสิ้นสภาพ ส่วนจำนวนสมาชิกของพรรคการเมืองลดลง เห็นว่า เมื่อ คสช.มีการปลดล็อค ให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้ ก็สามารถกลับมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ และมีกลุ่มการเมืองที่ได้ยื่นขออนุญาต คสช.เพื่อจัดประชุมเตรียมการจัดตั้งพรรคผ่านกกต.แล้ว 57 กลุ่ม กกต.ได้ส่งให้คสช.พิจารณา 42 กลุ่ม ซึ่งคสช.อนุญาตแล้ว 16 กลุ่ม ส่วนกลุ่มที่คสช.ไม่อนุญาต ประมาณ 20 กลุ่ม เนื่องจาก ไม่มีการระบุวันเวลาสถานที่ในการจัดประชุมที่ชัดเจน หรือบางกลุ่มก็ขอที่จะเดินถนนเพื่อรณรงค์หาสมาชิก ซึ่งอาจมีปัญหาในเรื่องของการรักษาความสงบเรียบร้อยที่คสช.จะต้องเข้าไปดูแลเมื่อทุกพรรคจัดประชุม แต่เมื่อพรรคได้รับทราบว่าคสช.ไม่อนุญาต ก็มีการแก้ไขและยื่นหนังสือกลับมาใหม่ ซึ่งกกต.ก็ดำเนินการส่งให้ คสช.พิจารณาต่อไป
แฟ้มภาพ