*กระบี่ ภูเก็ตฝนตกหนัก/นายกฯพาครม.ไหว้พระ/ช่อง3 เจรจาลดสัมปทาน*

10 กันยายน 2557, 07:09น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.



+++ กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านประเทศพม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ สำหรับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และอ่าวไทย มีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสมต่อเนื่องไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบน ที่มีขนาดความยาวน้อยกว่า 10 เมตรหรือ 5 วา ควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีเมฆมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล  กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆเป็นส่วนมาก โอกาสมีฝนฟ้าคะนองในเกณฑ์กระจายร้อยละ 60



+++นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยว่ายังต้องเฝ้าระวังต่อไปเพราะประเทศไทยยังอยู่ในช่วงฤดูฝนไปจนถึงปลายเดือน ต.ค. ส่วนปริมาณน้ำเหนือ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ระลอกแรกยังถือว่าปกติเพราะน้ำสะสมมีน้อยในช่วงต้นฤดูโดยการระบายน้ำในระดับ 1,020 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จากท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลงสู่จังหวัดภาคกลางในอัตราที่น้อยกว่าปี 56 คาดว่าปริมาณน้ำสูงสุดในปีนี้อยู่ในอัตราที่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่ จ.นครสวรรค์ เป็นอัตราปกติของหน้าฝนในช่วงเดือน ก.ย. เป็นฤดูน้ำหลากของทุกปี ยืนยันว่าน้ำเหนือที่ทยอยลงมาจะไม่ทำให้เกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯอย่างแน่นอนแต่อาจเกิดจากฝนที่ตกในพื้นที่ทำให้น้ำท่วมฉับพลันได้ ซึ่งกรมชลฯได้เตรียมระบบสูบออกไว้พร้อมสำหรับช่วยระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่ท่วมซ้ำซาก รอบกรุงเทพฯด้วย



+++ขณะที่ในวันนี้ กรมชลประทาน จัดประชุมรับฟังสภาปัญหาของลุ่มน้ำและแนวทางแก้ไข เพื่อยกร่างแผนยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ที่จ.พระนครศรีอยุธยา จะรับฟังความเห็นจากคนลุ่มน้ำสะแกกรัง เจ้าพระยา ป่าสัก และท่าจีน



+++วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี(ครม.) ไปนมัสการสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปฺญโญ)ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชที่พุทธมณฑล เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยนัดรวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 13.00 น.

+++ส่วนการแถลงนโยบายรัฐบาล นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เปิดเผยว่า กำหนดการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อ สนช.ในวันศุกร์ที่ 12 กันยายนนี้ โดยล่าสุดมีการประสานแจ้งเป็นการภายในแล้ว แต่ยังไม่มีหนังสือเชิญประชุมอย่างเป็นทางการ ขณะที่การพิจารณากฎหมายนั้นจะชะลอไปก่อนจนกว่ารัฐบาลจะแถลงนโยบายแล้ว รวมถึงกฎหมาย 5 ฉบับที่ คสช.เสนอให้พิจารณา ส่วนข้อกังวลหมวดเรื่องการถอดถอนอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญว่า หากมีผู้ยื่นร้องต่อศาลก็ถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้และขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณาวินิจฉัย แต่ยืนยันว่าการยกร่างข้อบังคับฉบับนี้ไม่มีเจตนาที่จะล้างบางนักการเมือง เพราะเป็นเพียงร่างข้อบังคับที่กำหนดไว้เป็นกติกาเท่านั้น



+++แหล่งข่าวคนสนิทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แจ้งว่า ตามที่มีข่าวว่าพ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางมาฮ่องกงในวันที่ 23-25 กันยายนนี้นั้น ล่าสุดได้คุยดับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณยังติดงาน และภาระกิจหลายอย่างที่ดูไบ และประเทศอื่นๆ และยังไม่ยืนยันว่าจะเดินทางมาฮ่องกงตามที่เป็นข่าว จึงไม่ต้องการให้คนที่อยากเดินทางไปพบจองตั๋วเครื่องบิน หรือจองโรงแรมไว้ล่วงหน้า เพราะเกรงว่าจะสูญเงินเปล่า เพราะพ.ต.ท.ทักษิณอาจจะไม่ได้เดินทางมา



+++วันนี้ ผู้ประกอบการทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ล จะหารือกับกสท. กรณี   ข้อพิพาทระหว่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับช่อง 3 กลายเป็นประเด็นร้อน



แหล่งข่าวจากผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เปิดเผยว่าได้ยื่นข้อเสนอให้กับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ไปแล้วว่า หากต้องการให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานกับทีวีดิจิทัล ต้องเคลียร์ประเด็นเรื่องสัญญาสัมปทานที่มีอยู่กับบริษัทอสมท ซึ่งช่อง 3 ในระบบอะนาล็อกยังมีสัญญายาวอยู่จนถึงปี 2563 โดยจะต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากปีละ 200-250 ล้านบาทขณะเดียวกันมีรายงานว่า กสท.ได้หารือไปยังบริษัท อสมท ว่า การที่จะให้ช่อง 3 ออกอากาศคู่ขนานจะผิดสัญญาสัมปทานหรือไม่ อย่างไร



+++แหล่งข่าวจากวงการทีวีดิจิทัลเปิดเผยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกับช่อง 3 ในขณะนี้ 4 ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องควรถอยหลังไปคนละก้าว ไม่ว่าจะเป็นบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ ผู้ดำเนินธุรกิจช่อง 3 กสท.เจ้าของโครงข่าย และ อสมท เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค ไม่ใช่เอาผู้บริโภคเป็นตัวประกันทางธุรกิจขณะที่ช่อง 3 เองก็ควรปฏิบัติตามกฎ หากต้องการฟ้อง กสทช.ก็ควรยอมให้จอดำก่อน



+++จากรายงานผลประกอบการของบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 3 พบว่า ปี 2556 มีรายได้ 1.49 หมื่นล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.8  รายได้จากการขายเวลาโฆษณาถือเป็นรายได้หลัก คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 90% ของรายได้ทั้งหมด หากช่อง 3 ต้องปรับลดเวลาโฆษณาลงร้อยละ 50 เชื่อว่ารายได้จากการขายเวลาโฆษณาก็จะลดลงเฉลี่ย 40-60% ตามไปด้วย ถือเป็นเม็ดเงินมหาศาลที่เชื่อว่าช่อง 3 ไม่อยากสูญเสียไป



+++นพ.พิสิฐ ตันติวัฒนากุล เจ้าของคลินิกออลไอวีเอฟ ย่านเพลินจิต และแพทย์สงสัยเป็นผู้ทำอุ้มบุญเด็ก 9 คน ให้กับหนุ่มญี่ปุ่น พร้อมนายรุ่งโรจน์ ดิษบรรจง ทนายความ เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา พันตำรวจเอกเดชา พรหมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ลุมพินี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ จะนำตัวนายแพทย์พิสิฐ พร้อมสำนวนผลัดฟ้องนัดแรกส่งศาล เนื่องจากยังสอบปากคำไม่เสร็จ โดยจะนัดสอบปากคำเพิ่มเติมอีก 30 วันส่วนการประกันตัว ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล



+++ด้านนางปวีณา หงสกุล ประธาน “มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”เปิดเผยว่า ได้ประสาน พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอนัดหมายหารือในวันนี้ (10 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือ ให้ความปลอดภัยกับสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ได้ขอความช่วยเหลือกับมูลนิธิปวีณาฯ เพราะเกรงว่าจะถูกคุกคาม กรณีภรรยาไปรับจ้างตั้งครรภ์ให้ชาวต่างชาติ โดยไม่ได้บอกสามี กระทั่งมาทราบภายหลัง เนื่องจากสามีเห็นผิดสังเกตขณะพาภรรยาตั้งครรภ์ 5 เดือน ไปโรงพยาบาลมักจะมีชาวต่างชาติมาคอยดูแล ล่าสุด ภรรยาถูกเอเย่นต์ที่รับงานจากชาวต่างชาติรายนี้บังคับให้ไปทำคลอดที่ต่างประเทศ และส่งคนมาติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด เบื้องต้นประสานไปยัง พ.ต.อ.สมบัติ หงษ์ทอง ผกก.สน.โคกคราม เพื่อให้ตรวจสอบบุคคลทั้งสามและพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานหนึ่ง

ข่าวทั้งหมด

X