*ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++สหรัฐฯยอมรับว่า ข้อตกลงหยุดยิงในยูเครน ได้รับการยึดมั่นเป็นส่วนใหญ่ ระบุสถานการณ์ต่างๆทางภาคสนาม จะเป็นปัจจัยหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังไตร่ตรองกำหนดมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียในช่วงอีกไม่กี่วันข้างหน้า แมร์รี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่าข้อตกลงหยุดหยิงระหว่างเคียฟและฝ่ายกบฏนิยมมอสโกเมื่อวันศุกร์(5ก.ย.) จนถึงตอนนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แม้มีรายงานเกี่ยวกับการโจมตีด้วยปืนครกและยิงปะทะกันประปรายในหลายพื้นที่ อาทิสนามบินโดเนตสก์และลูกานสค์
++++คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการบินของเนเธอร์แลนด์ ว่า การตกของเที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซียแอร์ไลน์ ไม่ได้เกิดจากปัญหาขัดข้องทางเทคนิค หรือการกระทำของลูกเรือ ในรายงานเบื้องต้นที่มีการเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนในวันนี้ คณะกรรมการฯระบุว่า เครื่องบินแตกเป็นเสี่ยงๆขณะบินอยู่กลางอากาศ อาจจะเป็นผลจากโครงสร้างเครื่องบินได้รับความเสียหาย เนื่องจากถูกวัตถุที่ทรงพลังจำนวนมากพุ่งเจาะทะลุเครื่องบินมาจากด้านนอกด้วยความเร็วสูง รายงานเพิ่มเติมว่า บันทึกการสนทนาในห้องนักบิน บันทึกข้อมูลการบินและข้อมูลจากหอควบคุมการบินบ่งชี้ว่า มีการดำเนินเที่ยวบินนั้นไปตามขั้นตอนปกติทุกอย่างจนกระทั่งเกิดเหตุเครื่องบินตก และไม่มีสัญญาณบ่งชี้มาก่อนว่า มีปัญหาขัดข้องทางเทคนิค หรือเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน รายงานไม่ได้ตำหนิว่าฝ่ายใดต้องรับผิดชอบสำหรับกรณีการตกของเครื่องบิน แต่ขณะนี้คณะอัยการในกรุงเฮกของเนเธอร์แลนด์อยู่ระหว่างการสอบสวนทางอาญาในคดีนี้ต่างหาก
+++นายไมเคิล ฟอลลอน รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษจะส่งมอบปืนกลหนักและอาวุธยุทธภัณฑ์ไปให้แก่ทางการอิรัก เพื่อใช้ในการปราบปรามกลุ่มติดอาวุธกลุ่มรัฐอิสลาม(ไอเอส) ระบุว่าอาวุธดังกล่าวมีมูลค่ารวม 1,600,000 ปอนด์ พร้อมค่าขนส่งอีกราว 475,000 ปอนด์ เขากล่าวว่า รัฐบาลอังกฤษมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือรัฐบาลอิรัก และกองกำลังชาวเคิร์ดในการป้องกันตนเอง สำหรับอาวุธดังกล่าวจะถูกลำเลียงไปถึงอิรักในวันพรุ่งนี้
+++พล.ต.อิกอร์ โคนาเชนคอฟ จากกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย แถลงว่าเครื่องบินจู่โจมซูคอย ซู-24 และเครื่องบินลำเลียงอันโตนอฟ อัน-26 ของรัสเซียไม่ได้บินเข้าใกล้เรือฟรีเกท เอชเอ็มซีเอส โทรอนโตของแคนาดา ซึ่งปฏิบัติภารกิจขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโตในทะเลดำ ในเหตุการณ์ซึ่งทางการแคนาดาประณามว่าเป็นการยั่วยุโดยไม่จำเป็น ด้านนายร็อบ นิโชลสัน รัฐมนตรีกลาโหมของแคนาดา กล่าวว่าเครื่องบินรัสเซียไม่ได้ก่อภัยคุกคามต่อเรือรบของแคนาดา แต่พฤติการณ์ดังกล่าวถือเป็นการยั่วยุโดยไม่จำเป็นและเสี่ยงที่จะทำให้สถานการณ์ในภูมิภาคนี้ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น
+++รายงานอ้างแถลงการณ์ร่วมของกองทัพปากีสถานและอินเดียว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมในปากีสถานและอินเดียเพิ่มเป็น 440 คนในวันนี้ โดยเฉพาะในปากีสถาน เหตุน้ำท่วมที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 3 กันยายน สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนจำนวนมาก กองทัพปากีสถานและอินเดียได้ใช้เรือและเฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงและหย่อนเสบียงอาหาร ผ้าห่ม ยารักษาโรคและน้ำดื่มให้แก่ชาวบ้านที่ติดค้าง พร้อมทั้งอพยพชาวบ้านราว 4 หมื่นคนไปยังที่ปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเกิดเหตุดินถล่มในพื้นที่ทั้งสองด้านของแคว้นแคชเมียร์ จุดที่แบ่งแยกกันระหว่างประเทศคู่อริทั้งสอง และเป็นจุดที่ถูกน้ำท่วมเสียหายหนักสุดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกของปากีสถาน บ้านเรือนและสะพานหลายแห่งถล่มลงมา อุปกรณ์ติดต่อสื่อสารและพื้นที่เพาะปลูกในประเทศทั้งสองได้รับความเสียหาย ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมของอินเดียระบุว่าการตัดไม้ทำลายป่าบนภูเขาสูงในแคว้นแคชเมียร์ ยิ่งทำให้ความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมในปีนี้รุนแรงกว่าทุกปี
+++นายมิเชล จาร์โรด เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก(ดับเบิลยูเอ็มโอ)กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของก๊าซคาร์บอนไดอ๊อกไซด์หรือ CO2 ก๊าซหลักที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ส่งผลให้ระดับความเข้มเข้นของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศเพิ่มสู่ระดับใหม่เมื่อปี 2556 โดยอยู่ที่ระดับ 396 ส่วนในล้านส่วน หรือเพิ่มขึ้นจากระดับในช่วงก่อนยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม(ก่อนปี 2293) ถึงร้อยละ 142 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี ในขณะเดียวกัน มหาสมุทร ซึ่งช่วยดูดซับก๊าซดังกล่าว มีสภาพเป็นกรดมากกว่าเดิม เขากล่าวว่า ภูมิอากาศของโลกกำลังเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่แปรปรวนสุดขั้วมากขึ้นส่วนใหญ่เนื่องจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาเชื้อเพลิงเพื่อนำพลังงานมาใช้ ระบุว่าเราเหลือเวลาอยู่ไม่มากนักในการเปลี่ยนแปลงทิศทางของสภาพอากาศของโลก โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซ CO2 และก๊าซเรือนกระจกอื่นๆ รวมถึง มีเทน และไนตรัสออกไซด์ ผู้นำการเมืองของโลกจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดในนครนิวยอร์คของสหรัฐในวันที่ 23 เดือนนี้ ตามคำเชิญของนายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ที่ประชุมจะพิจารณาเรื่องการทำข้อตกลงว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกฉบับใหม่ให้เสร็จภายในปลายปี 2558
+++องค์การอนามัยโลก หรือฮูแถลงว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 2,296 คนแล้ว ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ที่เสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วง 3 สัปดาห์ โดยร้อยละ47 ของผู้เสียชีวิตและร้อยละ 49 ของผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 4,293 คนเกิดขึ้นในช่วง 21 วันถึงวันที่ 6 ก.ย.เตือนว่ามีแนวโน้มว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มอีกหลายพันคนในไลบีเรียซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดการแพร่ระบาดของอีโบลาครั้งนี้ซึ่งรายงานครั้งแรกเกิดขึ้นในกินีเมื่อเดือนมี.ค.ปีนี้ได้ลุกลามเข้าเซียร์รา ลีโอนและไนจีเรีย โดยในไนจีเรียมีผู้เสียชีวิต 8คนในจำนวนผู้ติดเชื้อ 21 คน ขณะเดียวกันก็มีการยืนยันว่าพบผู้ป่วยติดเชื้ออีโบลา1 รายในเซเนกัลซึ่งเป็นตัวเลขล่าสุดของฮู
+++ตำรวจอินเดีย ได้เข้าช่วยเหลือผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งครอบครัวสามีจับเธอเป็นตัวประกันนานถึง3 ปีโทษฐานที่พ่อแม่ของเธอไม่สามารถหาเงินมาจ่ายเป็นค่าสินสอดได้เพียงพอโดยเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือเธอออกมากล่าวว่า นางกุนจา เทวี วัย25 ปีอยู่ในชุดเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งและมีสีหน้าตื่นกลัว นอกจากนี้เธอยังถูกปฏิเสธ ไม่ให้พบหน้าลูกสาวซึ่งขณะนี้ อายุ 3ขวบแล้ว ทั้งนี้ การจ่ายค่าสินสอดถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในอินเดียมาตั้งแต่2504 แต่ประเพณีปฏิบัติดังกล่าวยังมีอยู่อย่างแพร่หลายในแต่ละปี จะผู้หญิงชาวอินเดียหลายพันคนถูกฆ่าจากกรณีพิพาทเรื่องสินสอดการจ่ายและการรับสินสอดเป็นประเพณีในประเทศเอเชียใต้แห่งนี้มายาวนานหลายร้อยปีแล้วซึ่งพ่อแม่ของเจ้าสาวต้องเป็นฝ่ายหาสินสอดไม่ว่าจะเป็นเงินสด เสื้อผ้าและเครื่องประดับให้แก่ครอบครัวเจ้าบ่าว กลุ่มรณรงค์กล่าวว่าธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวทำให้ผู้หญิงเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดความรุนแรงภายในครอบครัวและเสียชีวิต
+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดตลาดวันนี้ ปรับตัวลดลงลังจากธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ส่งสัญญาณเข้มงวดข้อกำหนดเงินทุนสถาบันการเงินมากขึ้น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 96.72 จุด ปิดที่ 17,014.70 จุด สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ ปิดที่ 92.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2013
+++ราคาทองคำปิดลบเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,248.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
+++แอปเปิล ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของโลก เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด "ไอโฟน 6" (iPhone 6) "ไอโฟน 6 พลัส" (iPhone 6 Plus) และ "แอปเปิล วอทช์" (Apple Watch) "ไอโฟน 6" มาพร้อมหน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ขณะที่ "ไอโฟน 6 พลัส" มีขนาดของจออยู่ที่ 5.5 นิ้ว กล้องถ่ายรูป มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และเซนเซอร์แบบใหม่ที่จะทำให้ได้ภาพที่สวยขึ้น ไอโฟน 6 และ ไอโฟน 6 พลัส จะเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าในสหรัฐอเมริกาในวันศุกร์นี้ และจะวางจำหน่ายครั้งแรกในโลกที่สหรัฐวันที่ 19 ก.ย. ราคาสำหรับเครื่องไอโฟน 6 ความจุ 16 จิกะไบต์ พร้อมด้วยสัญญา 2 ปี อยู่ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6,400 บาท) 64 จิกะไบต์ ราคา 299 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 9,600 บาท) 123 จิกะไบต์ ราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ (12,800 บาท) และหากเป็นไอโฟน 6 พลัส เพิ่มราคาอีก 100 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3,200 บาท) ในแต่ละรุ่นความจุ ส่วนระบบปฏิบัติการไอโอเอส 8 (iOS 8) ที่จะเปิดให้ผู้ใช้ไอโฟนและไอแพดดาวโหลดได้ฟรีในวันที่ 17 ก.ย. นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ให้การทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นไอโฟน ไอแพด รวมถึงในระบบปฏิบัติการโยเซมิตีในแมคอินทอช และการใช้งานในแอปเปิลวอทช์ในอนาคตด้วย
+++สำหรับรอบแรกของการวางจำหน่าย iPhone 6 (ไอโฟน 6) คือวันที่ 19 กันยายนนี้ (เปิดพรีออเดอร์ 12 กันยายน) วางจำหน่ายก่อนใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ, แคนาดา, สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ออสเตรเลีย, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และญี่ปุ่น แน่นอนว่า ยังไม่มีรายชื่อของประเทศไทยนะครับ แต่มีความเป็นไปได้ที่ iPhone 6 จะวางจำหน่ายในไทยรอบสอ