กรณีการบุกจับผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมในเครือเมจิก สกิน และลีน ได้เป็นจำนวนมาก โดยผลตรวจสอบพบสารต้องห้าม ที่อาจทำให้ผู้บริโภคเสียชีวิต วันนี้ (3พ.ค.2561) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์ ร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางระงับการออกอากาศผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางที่ไม่ผ่าน อย. และไม่ได้รับอนุญาตโฆษณา ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ วิทยุ และช่องทางออนไลน์
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า ปัจจุบันกระบวนการทำงานตรวจสอบเนื้อหาโฆษณาที่มีเนื้อหาในลักษณะเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือสินค้าในลักษณะหลอกลวงหรือทำให้เกิดความเข้าใจผิด หรือโฆษณาเกินจริง สำนักงาน กสทช. จะสอบไปถามทาง อย. เพื่อตรวจสอบก่อนส่งเรื่องกลับมาซึ่งรวมระยะเวลาประมาณ 45 - 60 วัน ทำให้ไม่ทันสถานการณ์ แต่หลังจากนี้สำนักงาน กสทช. และ อย. จะดำเนินการเร่งรัดการยุติการออกอากาศโฆษณาด้วยการลดขั้นตอนเพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อประชาชน ซึ่งจะทำงานร่วมกันโดยมีเจ้าหน้าที่จาก อย. มาประจำการที่ศูนย์ตรวจสอบเนื้อหาวิทยุ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์(โซเชียลมีเดีย) ที่ผิดกฎหมาย หากพบว่ามีโฆษณาใดที่ผิดกฎหมาย อย. จะทำหนังสือแจ้งมาเพื่อให้เลขาธิการ กสทช. มีคำสั่งระงับโฆษณานั้นทันทีเป็นการชั่วคราว แล้วส่งเรื่องเข้าสู่กระบวนการพิจารณาการกระทำอันเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคของคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคฯ จนกว่าผลการพิจารณาจะเป็นข้อยุติ หากมีการฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์พ.ศ. 2555 ข้อ 5(2) ที่ระบุว่าการออกอากาศรายการหรือโฆษณาที่มีเนื้อหาสาระในลักษณะเป็นการจูงใจให้ผู้บริโภคเลือกใช้บริการหรือสินค้าโดยหลอกลวง หรือจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับการบริการหรือสินค้า หรือโดยการใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการสถิติ หรือข้อมูลอันไม่เป็นความจริง หรือเกินความจริง จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 5ล้านบาท และหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับวันละ 1แสนบาท
นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า เห็นความสำคัญในการปรับลดขั้นตอนกระบวนการทำงานลงจากเดิม โดยกระบวนการใหม่จะมีการร่วมกันพิจารณาเนื้อหาการโฆษณาที่ออกอากาศให้ทันต่อสถานการณ์มากขึ้น และร่วมกันพิจารณา จะเป็นการลดขั้นตอนในกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย โดยขอความร่วมมือผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้างโฆษณา ให้ตรวจสอบเนื้อหา รวมถึงนำเนื้อหาการออกอากาศ มาขออนุญาตให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการคุ้มครองผู้บริโภค
นพ.วันชัย กล่าวย้ำว่า ขอเตือนผู้บริโภคไม่ควรหลงเชื่อโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่โอ้อวดสรรพคุณเกินจริง อ้างว่ารักษาสารพัดโรคได้ เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองแล้ว ยังอาจจะเสี่ยงได้รับสารอันตรายจากการปนเปื้อนยาที่ผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้หากพบเห็นการโฆษณาผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือร้องเรียนด้วยตนเองที่ อย. และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าว: วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์
ข่าวทั้งหมด